ดอลลาร์แข็งค่าต่อ หลัง ไบเดน เสนอพาวเวลล์เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน 2564

ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (23/11) ที่ระดับ 33.05/06 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (22/11) ที่ระดับ 32.88/90 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลล์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 อย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้ตลาดเฝ้าจับตาว่าประธานาธิบดีจะเสนอชื่อผู้ใด ระหว่างนายพาวเวลล์และนางลาเอล เบรนนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด ซึ่งเป็น 2 ตัวเก็งที่ในการเสนอชื่อให้เป็นประธานเฟดคนใหม่

อย่างไรก็ดี แม้ ปธน.ไบเดนเสนอชื่อนายพาวเวลล์เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 แต่นายพาวเวลล์ก็ต้องผ่านการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐ ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาบางรายมีแนวโน้มที่จะคัดค้านการเข้ารับตำแหน่งประธานเฟดของนายพาวเวลล์ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็กว่าคาด หลังมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี

โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ เรียกร้องให้เฟดเร่งการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยโดยเร็วที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปีหน้า โดยทาง FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ พบว่านักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2565 จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนกรกฎาคม 2565

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เมื่อวานนี้นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ตค. 64) คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 213 ราย เงินลงทุนรวมกว่า 11,554 ล้านบาท เกิดการจ้างงานคนไทยกว่า 5,000 คน

นอกจากนี้ รมช.พาณิชย์ คาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปี’64 นี้ จะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่อนคลายให้มีการเปิดประเทศ และเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 33.00-33.14 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 33.00/02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (23/11) ที่ระดับ 1.1227/29 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (22/11) ที่ระดับ 1.1285/87 ดอลลาร์สหรัฐ/โร ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจในยูโรโซนหลังจากที่หลายประเทศ

เช่น ออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์ ได้ประกาศกลับไปดำเนินมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งแล้ว หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีเปิดเผยว่า จำเป็นต้องดำเนินมาตรการจำกัดที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ตลาดยังถูกกดดนจากรายงานของธนาคารกลางเยอรมนีที่เปิดเผยในวันจันทร์ (22/11) ซึ่งระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มชะลอตัวลงในฤดูใบไม้ร่วงนี้ เนื่องจากปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1227-1.1265 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1258/62 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตาดเช้าวันนี้ (23/11) ที่ระดับ 114.90/95 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (22/11) ที่ระดับ 114.07/10 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินเยนยังคงเคลื่อนไหวในเชิงอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ

โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเนื่องจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลล์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 อย่างเป็นทางการเมื่อคืนนี้ (22/11) ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 114.50-115.19 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 114.55/57 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ข้อมูลรายได้/การใช้จ่ายส่วนบุคคล และดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือน ต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. จีดีพีไตรมาส 3/64 (ครั้งที่ 2) และรายงานการประชุมเฟด (2-3 พ.ย.)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +0.9/+1.1 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.05/0.8 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ