เอ็กซ์สปริง คว้าอีก 4 ไลเซนส์ ต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร

A representation of the virtual cryptocurrency Bitcoin is seen in this picture illustration taken October 19, 2021. REUTERS/Edgar Su

“เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล” คว้าอีก 4 ไลเซนส์ พร้อมให้บริการไตรมาสแรกปี’65 รวมกับไลเซนส์ ICO Portal ที่มีอยู่เดิม กลายเป็นบริษัทแรกในไทยที่มีถึง 5 ไลเซนส์ ประกาศพร้อมเดินหน้าให้บริการ Digital Finance – One-Stop Service ครบวงจร Digital Finance – One-Stop Service เชื่อมต่อไร้พรมแดนกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนระดับโลก

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (XPG) ประกาศในวันนี้ว่า เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล (XSpring Digital) บริษัทในเครือ ได้รับ 4 ไลเซนส์อย่างเป็นทางการ ได้แก่ 1. นายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี 2. นายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล 3. ผู้ค้าคริปโทเคอร์เรนซี และ 4. ผู้ค้าโทเคนดิจิทัล อีกทั้งยังได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.ให้เป็น ICO Portal พร้อมเดินหน้าเป็นผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุนในระบบดิจิทัลแบบ One-stop Service เจ้าแรก ๆ ในไทย ผ่านการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยเงินทุนกว่า 10,000 ล้านบาท รองรับการขยายตัวตลาดเงินดิจิทัลทั่วโลกที่คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมกว่า 40 ล้านล้านบาทในปี 2565

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากบริษัท ได้ประกาศแผนธุรกิจเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในการก้าวสู่กลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร และต่อยอดความเชี่ยวชาญทางการเงินปัจจุบันสู่บริการทางการเงินระบบดิจิทัล (Digital Financial Service)

โดยชู 3 จุดแข็ง ได้แก่ พันธมิตร การเพิ่มทุนที่แข็งแกร่ง และการถือครองไลเซนส์ที่พร้อมให้บริการนักลงทุนแบบครบวงจร โดยในส่วนการเพิ่มทุน เดิมเอ็กซ์สปริงมีเงินทุนจากสัดส่วนผู้ถือหุ้น 3,094 ล้านบาท และได้เพิ่มสัดส่วนการเพิ่มทุนอีก 7,111 ล้านบาท ทำให้บริษัท มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีสภาพคล่องทางการเงินสูงด้วยเงินทุนในมือกว่า 10,000 ล้านบาท

พร้อมนำไปทุ่มพัฒนาธุรกิจในด้านต่าง ๆ ของบริษัท ซึ่งหนึ่งในธุรกิจหลักที่จะเน้นการพัฒนามากเป็นพิเศษเพื่อตอบโจทย์ตลาดเงินในปัจจุบันคือธุรกิจระบบดิจิทัล โดยมุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนรูปแบบดิจิทัล และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจสำหรับบริการทางการเงิน โดยมีบริษัทในเครือเป็นผู้ที่ดูแลธุรกิจระบบดิจิทัลอยู่คือ บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด

ภายหลังการเพิ่มทุน เอ็กซ์สปริงได้เดินหน้าตามแผนธุรกิจ “Transformation & Leap Forward” เต็มรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในโครงการตามวิสัยทัศน์นี้คือการที่ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ผ่านการรับรองเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) และได้เสนอขาย “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ” (SiriHub Investment Token) ซึ่งเป็น Real Estate-backed ICO ตัวแรกของไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แก่สาธารณชนและทำยอดขายหมดจนประสบความสำเร็จอย่างสูง

“วันนี้ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ยังได้รับเพิ่มอีก 4 ไลเซนส์แล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งพร้อมให้บริการในไตรมาสแรกปี 65 ได้แก่ 1. นายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี 2. นายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล 3. ผู้ค้าคริปโทเคอร์เรนซี และ 4. ผู้ค้าโทเคนดิจิทัล ทำให้บริษัท สามารถนำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนในระบบดิจิทัลแบบครบวงจร One-stop Service นักลงทุนสามารถทำธุรกรรมซื้อขายทั้งคริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัล ได้ในเจ้าเดียว ครอบคลุมทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง บริการแบบ One-stop Service ของเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งในไทยและต่างประเทศ มอบความสะดวกสบายให้นักลงทุนไม่ต้องยุ่งยากไปเปิดบัญชีกับ Exchange อื่น

โดยหลังจากนี้ เราจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อให้รองรับธุรกรรมการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลครบจบในจุดเดียว โดยใช้อินเตอร์เฟซที่ใช้ง่ายในแบบ User-friendly เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสะดวกสบายจากทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถ monitor พอร์ตของตัวเองได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายในตลาดแรกหรือในตลาดรองของแพลตฟอร์มพันธมิตรของเอ็กซ์สปริง” นางสาววรางคณากล่าว


ทั้งนี้ ผลประกอบการของเอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ครึ่งแรกของปี 2564 ถือว่าน่าพอใจ โดยมีรายได้รวมส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลงทุน 167 ล้านบาท สูงกว่ารายได้รวมส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลงทุนของทั้งปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 141 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิฯ อยู่ที่ 65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 791% ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกที่ชัดเจน บริษัทจึงเชื่อมั่นว่าแผนธุรกิจที่แข็งแกร่งนี้ จะสามารถเพิ่มรายได้และผลกำไรของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีรายได้เติบโตก้าวกระโดดได้ในปี 2565