เดือน ต.ค. นักท่องเที่ยวเข้าไทย 2 หมื่นคน ชี้ ส่งออกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

เปิดประเทศ-สนามบินสุวรรณภูมิ
เครดิตภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

คลังเผยภาวะเศรษฐกิจเดือน ต.ค. 64 มีสัญญาณดีขึ้น ปัจจัยจากโควิดที่ปรับตัวดี นักท่องเที่ยวเข้าไทย 2 หมื่นคน ชี้ลงทุน-ส่งออกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนตุลาคม 2564 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีเเนวโน้มดีขึ้น ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวภายในประเทศ และการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้การส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวได้ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8

โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการบริโภคสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนตุลาคม 2564 หดตัวในอัตราชะลอลงที่ -9.0% ต่อปี

และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 1.4% สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 43.9 จากระดับ 41.4 ในเดือนกันยายน 2564 โดยเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ประชาชนและภาคธุรกิจมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น

“เช่นเดียวกันกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ขยายตัวที่ 10.6% ต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นตามมูลค่าการนำเข้าสินค้า อย่างไรก็ดี ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งยังคงลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -11.2% ต่อปี และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -7.0 และรายได้เกษตรกรที่แท้จริงลดลงที่ -10.2% ต่อปี” นายวุฒิพงศ์ กล่าว

ขณะที่การบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนตุลาคม 2564 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประเภทพิเศษ นักท่องเที่ยวกลุ่มสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) นักธุรกิจ กลุ่มสุขภาพที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทยรวม จำนวน 20,272 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากเยอรมนี สหรัฐ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส สำหรับจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนตุลาคม 2564 อยู่ที่ 4,596,227 คน หรือคิดเป็นการหดตัวในอัตราชะลอลงที่ -66.5% ต่อปี

นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนตุลาคม 2564 ขยายตัวที่ 21.8% ต่อปี สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนตุลาคม 2564 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 2.4% ต่อปี ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ลดลงที่ -7.2% ต่อปี

อย่างไรก็ดี มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนตุลาคม 2564 อยู่ที่ 22,738.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ที่ 17.4% ต่อปี โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1.สินค้าเกษตรและอาหาร 2. สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ภายใน 3. สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด 4. สินค้าขั้นกลางหรือสินค้าวัตถุดิบ และ 5. สินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

ทั้งนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนตุลาคม 2564 อยู่ที่ 2.38% ต่อปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.21% ต่อปี ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 อยู่ที่ 58.2% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี)


ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2564 อยู่ในระดับสูงที่ 246.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ