BTS ทุ่มเงิน 400 ล้าน ฮุบบริษัทเทคในฮ่องกง

บีทีเอส - BTS

บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ทุ่มเงินลงทุนกว่า 12.85 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 400 ล้านบาท ซื้อหุ้น 100% ในบริษัท Rocket Holdings HK Limited แถมได้หุ้นอีก 25% ในบริษัท ทีบีเอ็น ซอฟต์แวร์ บริษัทให้บริการด้านคำปรึกษา Digital Transformation

วันที่ 8 ธันวาคม 2564 นายคง ชิ เคือง กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 บริษัทได้ลงทุนซื้อหุ้นสามัญทั้งหมด 100% ในบริษัท Rocket Holdings HK Limited จาก Rocket Holdings (BVI) Limited จำนวน 12,850,182 หุ้น คิดเป็นทุนชำระแล้ว จำนวน 12,850,182 เหรียญสหรัฐ หรือราว 400 ล้านบาท

สำหรับ Rocket เป็นบริษัทจดทะเบียนและจัดตั้งขึ้นในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และประกอบธุรกิจลงทุน 25% ในบริษัท ทีบีเอ็น ซอฟต์แวร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการด้านคำปรึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) และการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบครบวงจร โดยการลงทุนครั้งนี้ใช้กระแสเงินสดของบริษัท

BTS ทดสอบรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง เตรียมเปิด 2565

วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ณ โรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง (Depot) ถนนศรีนครินทร์ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทบีทีเอส พร้อมด้วยคณะกรรมการ และผู้บริหาร นำเยี่ยมชมการทดสอบเดินรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง จากโรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าโมโนเรลฯ ถึง สถานีศรีนุช (YL13) เข้าร่วมทดสอบการเดินรถฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการภายในปี 2565 นี้

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังการทดสอบรถไฟฟ้าโมโนเรลฯ ว่าภายในปี 2565 นี้ โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลทั้ง 2 สาย ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล “สายสีเหลือง” (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กม. จำนวน 23 สถานี และโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล “สายสีชมพู ” (ช่วงแคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กม. จำนวน 30 สถานี จะพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว

บริษัทฯ จึงทำการทดสอบการเดินรถ รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ทั้งด้านระบบการควบคุมรถไฟฟ้า และระบบอาณัติสัญญาณ เบื้องต้นการทดสอบฯ ยังไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ ส่วนรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพูนั้น บริษัทฯ ได้มีการทดสอบการเดินรถไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา จำนวน 1 สถานี เริ่มจากโรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าโมโนเรลฯ ถึง สถานีมีนบุรี (PK30) เป็นการทดสอบเดินรถแบบไป – กลับ จากผลการทดสอบเดินรถยังไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ เช่นกัน

โดยหลังจากนี้บริษัทฯ จะทยอยทดสอบเดินรถเป็นช่วง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานทุกระบบสอดคล้องกัน มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย