นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันที่ 21 กรกฎาคม ดัชนีน่าจะไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ โดยในส่วนของปัจจัยต่างประเทศ จะพบได้ว่าราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในลักษณะทรงตัว เห็นได้จากสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร ก่อนที่การประชุมของรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันจาก 5 ชาติของโอเปก จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 24 ก.ค.ที่ประเทศรัสเซีย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 46.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 49.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าน่าจะคงมาตรการเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนปัจจัยในประเทศ แม้การส่งออกจะมีสัญญาณที่ดี แต่ในเรื่องของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/2560 ของธนาคารพาณิชย์ ยังคงเป็นแรงกดดันให้กับดัชนีตลาดหุ้นไทย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
“ปัจจัยทั้งในและต่างประเทศมันคานงัดกันอยู่ เลยทำให้ไม่มีอะไรโดดเด่นที่จะขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทยได้” นายเทิดศักดิ์กล่าว
สำหรับตลาดหุ้นไทยวันนี้ประเมินกรอบแนวรับที่ระดับ 1,570 จุด แนวต้านที่ 1,580 จุด ทั้งนี้แนะนำให้นักลงทุนเลือกหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ยกตัวอย่างเช่น LH-BEAUTY และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
