ไทยพาณิชย์ คัด 5 ธีมหุ้นเมกะเทรนด์ทั่วโลก รวมไว้ในกองเดียว เปิดขาย 4-14 ม.ค.65

หุ้น-1

บลจ.ไทยพาณิชย์ คัด 5 ธีมหุ้นเมกะเทรนด์โลกระดับเวิลด์คลาส รวมไว้ในกองเดียว เปิดขายกองหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ทั่วโลกภายใต้ชื่อกอง “SCBMEGA” เสนอขายครั้งแรกวันที่ 4-14 ม.ค.65 เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท

วันที่ 4 มกราคม 2565 นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้ประสบความสำเร็จจากการนำเสนอกองทุนหุ้นทั่วโลก ซึ่งบริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เมื่อเดือน พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้บริษัทได้มองเห็นโอกาสการเติบโตของหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ทั่วโลก จึงต่อยอดโอกาสการลงทุนให้กับนักลงทุนทั่วไป ด้วยรูปแบบการลงทุนระดับ Private Wealth จากทีมผู้จัดการกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ ที่เข้าถึงความชำนาญในการลงทุนต่างประเทศของ จูเลียส แบร์

ซึ่งเป็นบริษัทจัดการระดับพรีเมียมของสวิตเซอร์แลนด์ที่ดำเนินธุรกิจใน 30 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมการลงทุนมากกว่า 250 Active Funds และ 500 Passive Funds ทั้งยังเป็น 1 ใน Top 5 ของผู้ให้บริการด้าน Wealth Management ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยเปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Megatrends (SCBMEGA) ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท เสนอขายครั้งแรก 4-14 มกราคม 2565 นี้ และสามารถซื้อได้ในทุกช่องทางรวมถึงผู้สนับสนุนการขายทุกราย

โดยกองทุน SCBMEGA มีกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก ผ่านการลงทุนในกองทุนหลัก (Core Fund) และกองทุนเสริม (Satellites Funds) เพื่อสร้างการเติบโตของผลตอบแทนโดยการลงทุนแบบ Pro-active และปรับเปลี่ยนการลงทุน Satellites ให้เหมาะกับสภาวะโอกาสที่น่าสนใจ โดย 5 เมกะเทรนด์หลักที่เลือกลงทุน ประกอบด้วย

1.Arising Asia การเพิ่มขึ้นของประชากรในภูมิภาคเอเชีย

2.Digital Disruption เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

3.Energy Transition แนวโน้มการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงาน

4.Feeding the World ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับผลิตทรัพยากรที่จะรองรับการเพิ่มขึ้นของประชากรโลกในอนาคต 5.Shifting Lifestyle โครงสร้างอายุของประชากรที่เปลี่ยนไป

โดยกองทุนหลักจะลงทุนผ่านกองทุน JB Equity Next Generation Fund ด้วยการคัดเลือกบริษัทที่มีโอกาสการเติบโตระยะยาว มีอัตรากำไรสูงและเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นผู้ชนะในอนาคต ส่วนกองทุนเสริมจะลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายที่ได้ประโยชน์จากเมกะเทรนด์เช่นเดียวกัน โดยเบื้องต้นได้เลือกลงทุนใน 3 กองทุน ได้แก่ Robeco Global Consumer Trends ลงทุนในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มและรูปแบบของการบริโภค, BB Adamant Digital Health ลงทุนในบริษัทที่พัฒนาระบบ Healthcare ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยต้นทุนที่ถูกลง และ Pictet Nutrition Fund ลงทุนในบริษัทที่พัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของ Food Chain

“การลงทุนที่เน้นเลือกหุ้นที่เติบโตสอดคล้องไปกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวของโลก หรือได้รับประโยชน์จาก Global Megatrends ทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของผู้คน และพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในโลกอนาคตต่าง ๆ มากกว่าการมุ่งเน้นหากำไรในระยะสั้น นับว่าเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับนักลงทุน สำหรับ SCBMEGA เป็นกองทุนหุ้นทั่วโลกที่มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่มีรูปแบบโมเดลธุรกิจที่สอดคล้องกับ Global Megatrends

และคาดว่าจะเป็นบริษัทผู้นำในอนาคต โดยใช้การบริหารพอร์ตแบบ Core & Satellites ด้วยการลงทุนหลากหลายกลุ่มธุรกิจและหลายธีม จึงเป็นการช่วยลดความเสี่ยงการกระจุกตัวบนกลุ่มอุตสาหกรรมเดียว ทั้งยังสร้างผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอได้ในระยะยาวจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความเป็นอยู่ในอนาคตที่สะท้อนให้เห็นได้ในรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ กองทุนนี้นับว่าเป็นกองทุนที่ได้เข้าถึงการลงทุนระดับเวิลด์คลาสโดยได้ทีมผู้เชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนระดับโลกอย่างจูเลียส แบร์ เป็นผู้บริหารกองทุนอีกด้วย” นางนันท์มนัส กล่าว

ทั้งนี้ กองทุน SCBMEGA เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ เช่น หน่วย CIS หน่วยของกองทุนอีทีเอฟ (ETF) เป็นต้น โดยมุ่งเน้นลงทุนในหุ้นเมกะเทรนด์ที่มีการเติบโตเชิงโครงสร้างในธีมการลงทุนที่สำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงวิถีการดาเนินชีวิตของมนุษย์ในรูปแบบใหม่ การอุปโภคบริโภคที่ให้ความสำคัญต่อผลกระทบที่อาจมีต่อสิ่งแวดล้อม

รวมถึงการประยุกต์ใช้ซึ่งเทคโนโลยีด้านดิจิทัลในชีวิตประจำวัน เป็นต้น ส่งผลให้กองทุนมี net exposure ในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศอย่างน้อย 2 กองทุน โดยจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

โดยบริษัทฯ ได้มอบหมายให้ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด เป็นผู้รับมอบหมายงานด้านการจัดการลงทุนของกองทุน กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสำหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการลงทุน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร. 02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือ https://scbam.info/3Jks3oK สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.info/3dEjSFD
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน

กองทุนรวมนี้บริหารจัดการการลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่างประเทศโดยบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด ภายใต้สัญญาแต่งตั้งรับมอบหมายงานด้านการจัดการลงทุนเป็นไปตามที่ระบุในโครงการจัดการกองทุนโดยบลจ.ไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกันกับบลจ.ไทยพาณิชย์ และมีผู้ถือหุ้นหลักได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เช่นเดียวกันกับบลจ.ไทยพาณิชย์ | กองทุน SCBMEGA มีการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของ Bank Julius Baer & Co. AG ซึ่งเป็นบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นหลักได้แก่ Julius Baer Group Ltd. เช่นเดียวกันกับบริษัท หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด