โค้งท้าย 2 ค่ายลีสซิ่งโตพุ่ง โหมปล่อยสินเชื่อจำนำรถ

โค้งท้ายปี สินเชื่อจำนำรถไปต่อ “เมืองไทยลีสซิ่ง” ชี้หลังน้ำท่วมลด เกษตรกรต่อแถวขอกู้เพาะปลูก คาดสินเชื่อรวมโต 50% ฟากทิสโก้เน้นตลาดรถยนต์-รถกระบะ ชูจุดขาย “รีไฟแนนซ์” จากกลุ่มลูกหนี้กดเงินสด-บัตรเครดิต ชูอัตราดอกเบี้ยต่ำ 10-15%

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทยลีสซิ่ง (MTLS) เปิดเผยว่า หลังจากเกิดภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คาดว่าหลังจากน้ำท่วมลดลงแล้วจะทำให้หลายครัวเรือนโดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร จะเข้ามาขอกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนเพาะปลูก ซึ่งจะทำให้สินเชื่อจำนำทะเบียนจะได้รับอานิสงส์หลังน้ำท่วมแล้ว และทำให้คาดว่าภายในสิ้นปีนี้สินเชื่อจำนำทะเบียนน่าจะมียอดคงค้างรวมอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 50% จากปี 2559 โดยหลัก ๆ มาจากจำนำรถจักรยานยนต์ 44% รถยนต์ 30% โฉนดที่ดิน 15% และอื่น ๆ

“ขณะที่สินเชื่อจำนำทะเบียนโตต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งตลาดในไทยยังมีช่องว่างอีกเยอะมาก ซึ่งผู้เล่นที่อยู่ในตลาดยังเป็นเจ้าเดิม ส่วนหนึ่งเราก็ต้องแข่งกับเจ้าท้องถิ่นมากขึ้น โดยทำบริการให้ดีขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ส่วนเรื่องดอกเบี้ยและค่าบริการต่อปี เราเก็บไม่เกิน 15% ต่อปีอยู่แล้ว” นายชูชาติกล่าว

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า ในช่วงอีก 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ หากเศรษฐกิจไทยยังเติบโตน้อย จะส่งผลให้สินเชื่อจำนำทะเบียนโตค่อนข้างดีได้ เพราะลูกหนี้บางกลุ่มที่ยังมีสินทรัพย์ปลอดภาระหนี้อยู่ เช่น รถมอเตอร์ไซค์ บ้าน ก็จะสามารถนำมาขอกู้ได้ ซึ่งถือว่าได้อัตราดอกเบี้ยกู้ที่ดีอยู่ที่ประมาณ 10-15% ซึ่งดีกว่าการกู้เงินนอกระบบหรือขอสินเชื่อส่วนบุคคลที่ดอกเบี้ยสูง

“2 เดือนสุดท้าย ถ้าเศรษฐกิจเติบโตอ่อน ๆ ผมคิดว่าหนี้ภาคครัวเรือนไทยยังสูง หากคนมีหนี้ที่สูง แต่มีสินทรัพย์ปลอดหนี้ก็เอามารีไฟแนนซ์ได้ อย่างมีหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ก็ใช้รถ มอเตอร์ไซค์ บ้าน ที่ปลอดภาระมาขอสินเชื่อได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดที่อยู่ 28%” นายศักดิ์ชัยกล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันพอร์ตจำนำทะเบียนของบริษัทพบว่า สัดส่วนกว่า 96% จะเป็นสินเชื่อรถยนต์ รถกระบะ รถบรรทุก โดยเฉลี่ยหลักแสนบาทต่อคัน และอีก 4% คือ มอเตอร์ไซค์ ที่มียอดเฉลี่ยคันละ 20,000-25,000 บาท

“ตอนนี้เราจะเน้นรถกระบะมากขึ้น เพราะซื้อง่าย ขายคล่อง ที่สำคัญเป็นรถที่ไว้ใช้งาน ทำให้คนส่วนใหญ่จะรักรถ ไม่ปล่อยให้เสียรถไป” นายศักดิ์ชัยกล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารทิสโก้ปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนภายใต้ผลิตภัณฑ์ Auto Cash และ Top up หรือสินเชื่อที่ขยายให้ลูกค้าเก่าสามารถขอกู้เพิ่มได้รวมอยู่ ในสินเชื่ออเนกประสงค์ ซึ่ง ณ สิ้น ก.ย. 2560 ยอดสินเชื่อคงค้างจำนำทะเบียนอยู่ที่ 26,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่อยู่ 22,200 ล้านบาท