เคทีซี พี่เบิ้ม เล็งเป้าสูง “เหยียบดวงจันทร์” ปักธงสินเชื่อใหม่ทะยาน 1.15 หมื่นล้าน

เคทีซี ผนึก ธนาคารกรุงไทย ส่งสินเชื่อจำนำทะเบียน “เคทีซี พี่เบิ้ม” เหยียบดวงจันทร์ ปรับเป้าก้าวกระโดดแตะ 1.15 หมื่นล้านบาท จากเป้าเดิมที่ 2,200 ล้านบาท นำร่องปล่อยสินเชื่อผ่านสาขากรุงไทย 900 แห่ง เพิ่มวงเงินสูงสุดเป็น 1 ล้านบาทต่อราย เฟสถัดไปขยายช่องทาง krungthai NEXT และเครือข่ายแบงก์กรุงไทย

วันที่ 13 มกราคม 2565 นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า หนึ่งในธุรกิจหลักสำคัญที่สุดที่เรากำลังทำและจะเห็นการมุ่งไปของเคทีซีตั้งแต่ปี 2565 คือ สินเชื่อจำนำทะเบียน “เคทีซี พี่เบิ้ม” จากเดิมแผนกลยุทธ์ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปีนี้อยู่ที่ 2,200 ล้านบาท แต่ล่าสุดได้ปรับเป้าใหม่เป็น 11,500 ล้านบาท เพื่อให้เราโตก้าวกระโดด

ระเฑียร ศรีมงคล 
ระเฑียร ศรีมงคล

ทั้งนี้ตัวเลขที่เราคาดการณ์ไว้ไม่ใช่เราจะทำได้เพราะปรับเป้า แต่เราเตรียมแผนรองรับการโตไว้แล้ว ซึ่งยอดปล่อยสินเชื่อทั้งบริษัทยังไม่เคยมีปีไหนที่เราทำได้ถึงหมื่นล้านบาท แต่ปีนี้เฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียน “เคทีซี พี่เบิ้ม” จะทำได้

ด้านนางสาวเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการ-ธุรกิจสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม” กล่าวต่อว่า ปีนี้แผนธุรกิจสินเชื่อจะเป็นการเติบโตและขยายพอร์ต โดยจะพา “พี่เบิ้ม” ไปถึงดวงจันทร์ สเกลแบบการปล่อยจรวดขึ้นสู่ดวงจันทร์ (Moon Shot) เพื่อเป้าหมายใหญ่กับยอดปล่อยสินเชื่อที่ 11,500 ล้านบาท

ซึ่งเป็นเป้าที่ท้าทายมาก ๆ จากเดิม 2,200 ล้านบาทก็ถือว่าท้าทายมากแล้ว แต่หลังจากได้พูดคุยกับธนาคารกรุงไทย (KTB) ซึ่งเห็นว่าธุรกิจนี้มีโอกาสในการเติบโตและมีศักยภาพมากในการแข่งขันในตลาด ทางธนาคารกรุงไทยจึงได้ปรับเป้ายอดปล่อยสินเชื่อในครั้งนี้ให้ใหม่

เรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี
เรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี

โดยธนาคารกรุงไทยจะสนับสนุนสาขาในการปล่อยสินเชื่อกว่า 900 สาขาทั่วประเทศ และสาขากรุงไทยลีสซิ่งอีก 11 สาขา ซึ่งทำให้เราเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการสินเชื่อโดยเฉพาะลูกค้าต่างจังหวัดที่เป็นฐานลูกค้าหลักที่จะขยายพอร์ตได้อย่างรวดเร็ว

และในเฟสถัดไปเราจะพัฒนาขยายช่องทางอื่น ๆ ของธนาคารกรุงไทยด้วย เช่น โมบายแบงกิ้ง krungthai NEXT และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้เครือข่ายของธนาคารกรุงไทย ซึ่งตั้งแต่ปีนี้เราจะเข้าไปในอีโคซิสเต็มตรงนั้นด้วย

โดยปีนี้ธุรกิจสินเชื่อที่เรามุ่งเน้นการเติบโตคือ ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียน ซึ่งเป็นโปรดักต์ที่เรามีจุดแข็งแรงและแข่งขันในตลาดได้ โดยขยายพอร์ตประมาณ 80% ของยอดสินเชื่อใหม่ ส่วนที่เหลืออีก 20% มาจากธุรกิจเช่าซื้อผ่านบริษัทกรุงไทยลีสซิ่งที่เพิ่งได้ใบอนุญาตมาจากการเข้าไปลงทุนถือหุ้น 75.05% ซึ่งธุรกิจตรงนี้จะค่อย ๆ เติบโต

โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ เราจะมุ่งเน้นจุดแข็งหลักเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดคือ 1.วงเงินใหญ่ ปรับเป็น 1 ล้านบาทต่อราย จากเดิมให้สูงสุด 7 แสนบาทต่อราย 2.การอนุมัติ มีบริการพี่เบิ้ม ดีลิเวอรี่ โดยสามารถเข้าไปรับสมัครและอนุมัติลูกค้าได้ถึงบ้านและสถานที่ต่าง ๆ สะดวกแบบไร้กระดาษ (Paper Less) ใช้เวลาอนุมัติภายใน 2 ชั่วโมง ทั้งนี้อนุมัติผ่านลูกค้าได้รับเงินทันที และ 3.เปิดโอกาสให้กับทุกอาชีพ มีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อ

นายระเฑียรกล่าวตอนท้ายว่า สำหรับโครงสร้างรายได้ของเคทีซีต่อจากนี้ธุรกิจสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม” จะมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้น เนื่องจากมีการโตที่สูง จากปัจจุบันอยู่ที่ 10%

ในขณะที่สัดส่วนเกินกว่า 90% ยังมาจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล นอกจากนี้การเติบโตในระยะยาวจะเป็นแพลตฟอร์ม MAAI BY KTC เพราะเป็นการสร้างอีโคซิสเต็ม ซึ่งการจะทำเงินยังไม่สามารถอธิบายแผนธุรกิจในตอนนี้ได้ แต่เป็นความฝันที่เรามอง แต่จะเป็นการเชื่อมอีโคซิสเต็มแล้วทำให้เม็ดเงินเกิดขึ้น