คริปโทจะชิงตลาดทองคำ? 3 ผู้ค้ารายใหญ่ มองต่างมุม

คริปโทจะชิงตลาดทองคำ ? 3 ผู้ค้ารายใหญ่...มองต่างมุม

แม้ว่าจะมีบางช่วงที่ราคาตกลงไปบ้าง แต่กระแสคริปโทเคอร์เรนซีก็ยังคงเป็นเทรนด์ที่มาแรงในโลกยุคปัจจุบัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักยุทธศาสตร์เงินตราของ “โกลด์แมน แซกส์”วาณิชธนกิจระดับโลกก็ออกมาระบุว่า บิตคอยน์จะเข้ามาชิงตลาดทองคำมากขึ้นในปี 2565 นี้ ทิศทางจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่

“ประชาชาติธุรกิจ” พูดคุยกับผู้ค้าทองรายใหญ่ของไทย 3 ค่ายด้วยกัน มาสะท้อนมุมมองเรื่องดังกล่าว

“YLG” รับบิตคอยน์แย่งเม็ดเงิน

ด้าน “พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ปัจจุบันคนที่ลงทุนในทองคำ มีหลายรุ่น ซึ่งถ้าเป็นนักลงทุนรุ่นเก่าการลงทุนในทองคำก็ยังเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง

แต่ที่เห็นคริปโทหวือหวานั้นมาจากนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ชอบสินทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนสูง ๆ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนพูดว่า หากไม่มีบิตคอยน์ราคาทองคำน่าจะเกิน 2,000 เหรียญต่อออนซ์ขึ้นไปได้ แต่ด้วยเม็ดเงินบางส่วนเข้าไปลงทุนในคริปโท ทำให้ปีที่แล้วราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดได้แค่ 1,800-1,900 เหรียญต่อออนซ์

“สิ่งที่เเตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คือ ตลาดทองคำมีขนาดอยู่ที่ 11.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ตลาดคริปโทมีเพียง 1.45 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จะเห็นว่าตลาดทองคำใหญ่กว่าคริปโทถึง 11 เท่า

ดังนั้น คริปโทอาจจะเข้ามาแทนที่ทองคำได้แค่บางส่วนเท่านั้น และอนาคตคงต้องจับตาดูว่าธนาคารกลางของแต่ละประเทศจะเริ่มให้ความสำคัญกับคริปโทมากแค่ไหน ในแง่ทุนสำรอง

ซึ่งหากหลาย ๆ แห่งเริ่มขยับมาทางคริปโทมากขึ้น ก็อาจจะเป็นส่วนที่เข้ามากดดันราคาทองคำได้ อย่างไรก็ตาม มองว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจีฯกล่าว

“ฮั่วเซ่งเฮง” ชี้ตลาดทองยังโต

ขณะที่ “ธนรัชต์ พสวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า ตลาดทองคำที่หลาย ๆ คนมองว่า บางส่วนหายไปจากกระแสของคริปโทเคอร์เรนซีที่เข้ามา แต่ความจริงแล้วตลาดทองคำยังคงเติบโตอยู่

แต่ด้วยความที่ช่วงการเติบโตของคริปโทในช่วงนี้ค่อนข้างที่จะสูงกว่า เมื่อเทียบกับตลาดทองคำ เนื่องจากคริปโทกำลังได้รับความนิยมและเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่เข้ามาตอบโจทย์นักลงทุนสมัยใหม่ ด้วยรูปแบบการลงทุนที่ซื้อขายง่ายและยังได้ผลตอบแทนที่สูง ทำให้นักลงทุนบางส่วนก็เข้าไปลงทุนในคริปโท

“ถ้าจะมองว่าตลาดคริปโทจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดทองคำ คงต้องดูที่การลงทุนของนักลงทุนเป็นหลัก เพราะจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่นักลงทุนทุกคนที่ซื้อขายทองอยู่แล้วจะกล้าเข้าไปลงทุนในคริปโททั้งหมด

เพราะสำหรับนักลงทุนที่ยังรับความเสี่ยงสูง ๆ แบบผันผวนข้ามคืนไม่ได้ ก็ยังคงมีความต้องการซื้อขายทองคำอยู่ ดังนั้น ตลาดทองคำก็ยังคงเติบโต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มฮั่วเซ่งเฮงกล่าว

MTS ชี้จุดต่าง “ทองคำ-คริปโท”

เริ่มจาก “นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุก กล่าวว่า การที่ทองคำมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับคริปโท เนื่องจากทั้ง 2 ตัวมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน

คือ เป็นสินทรัพย์ที่มีจำกัด มีลักษณะการได้มาที่เรียกว่า “การขุด” เหมือนกัน จึงเป็นที่มาของนิยามที่ว่า “บิตคอยน์” คือ “ทองคำดิจิทัล” รวมถึงทองคำและคริปโท ทั้งคู่ไม่มีการจ่ายปันผล

ซึ่งแม้ว่าจะคล้ายกัน แต่การที่คริปโทจะเข้ามาแย่งตลาดทองคำไปคงยังไม่ใช่ทั้งหมด และยังมองว่าปี 2565 นี้ ทองคำยังไปต่อได้ แต่เป็นแบบ sideway down (แกว่งตัวขาลง)

ทั้งนี้ การที่คริปโทจะเข้ามาทำให้บทบาทของนักลงทุนในทองคำน้อยลงเป็นเพียงส่วนน้อย เนื่องจากตลาดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยตลาดทองคำส่วนใหญ่ จะเป็นนักลงทุนที่มีอายุและเป็นกลุ่มที่รับความเสี่ยงได้น้อยขณะที่คริปโทต้องรับความเสี่ยงได้มากและส่วนใหญ่ผู้ลงทุนจะอายุน้อยนอกจากนี้

นักลงทุนในทองคำมีทั้งระยะสั้น กลางและยาว ตามภาวะตลาด แต่นักลงทุนในคริปโทมักจะเป็นนักลงทุนแบบเก็งกำไร รวมถึงคริปโทเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นออนไลน์ทั้งหมด ไม่สามารถจับต้องได้ ในขณะที่ทองคำสามารถจับต้องได้

“ทองคำยังมีปัจจัยพื้นฐานเฉพาะตัวที่ชัดเจน ต่างจากคริปโทที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานนักลงทุนมักเล่นตามอารมณ์ ดังนั้นกระแสคริปโทที่จะเข้ามากระทบต่อตลาดทองคำมองว่าน้อยมาก เพราะทั้ง 2 ตลาดมีความแตกต่างและสวนทางกัน ซึ่งหากกระทบก็คงไม่เกิน 10% ในตลาดทองคำ” ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุกกล่าว

ทั้งหมดนี้ เป็นมุมมองที่สะท้อนมาจากผู้ประกอบธุรกิจค้าทองคำโดยตรง ซึ่งล้วนเป็นผู้ค้ารายใหญ่เบอร์ต้น ๆ ในเมืองไทย