AAV ขอผ่อนผันนำหุ้น “ห้ามขาย” ใช้เป็นหลักประกันกู้ยืมเงินจากแบงก์

ตลาดหุ้น
REUTERS/Chaiwat Subprasom/File Photo

“เอเชีย เอวิเอชั่น” แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอผ่อนผันการนำหุ้น AAV ที่อยู่ในช่วงระยะเวลาห้ามขาย เพื่อเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงิน

วันที่ 17 มกราคม 2565 บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ถือหุ้นสายการบินไทยแอร์เอเชีย แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 โดยบริษัทได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการรับหลักทรัพย์ตามที่ระบุในข้อ 8 ของประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการพิจารณาคำขอให้รับหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิในส่วนเพิ่มทุนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2558

ซึ่งกำหนดให้บริษัทห้ามบุคคลในวงจำกัดที่ได้รับการเสนอขายในราคาที่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด นำหุ้นที่ได้รับจากการเสนอขายทั้งหมดออกขายภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (เงื่อนไข Silent Period) ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 16 ธันวาคม 2565 โดยปัจจุบันมีหุ้นอยู่ในเงื่อนไข Silent Period ทั้งหมด จำนวน 5,028,571,429 หุ้น

ต่อมา บริษัทได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้น ซึ่งมีความประสงค์ขอนำหุ้นของบริษัทที่อยู่ในช่วงระยะเวลาการห้ามขาย จำนวน 2,257,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 44.88 ของหุ้นที่อยู่ในเงื่อนไข Silent Period ทั้งหมดของบริษัทไปจำนำเพื่อเป็นหลักประกันการยืมเงินตามสัญญากู้ยืมเงินที่ทำกับสถาบันการเงิน และจะไม่มีการไถ่ถอนจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น โดยหุ้นของบริษัทดังกล่าวจำนวน 2,257,000,000 หุ้น อยู่ในช่วงระยะเวลาการห้ามขายจนถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2565 และได้มีการฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของตลาดหลักทรัพย์ฯ

ดังนั้น เพื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เกี่ยวช้องในการจำนำหุ้นที่อยู่ในช่วงระยะเวลาการห้ามขาย เพื่อเป็นหลักประกันการกู้ยืมกับสถาบันการเงิน บริษัทจึงเปิดเผยสารสนเทศดังกล่าว

ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการไถ่ถอนจำนำหรือการวางเป็นหลักประกันการยืมในหุ้นที่ห้ามขาย และยังอยู่ในช่วงระยะเวลาการห้ามขาย บริษัทจะนำหุ้นที่ห้ามขายดังกล่าวมาฝากไว้กับศูนยัรับฝากหลักทรัพย์ภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่ได้มีการไถ่ถอน ขอผ่อนผันการนำหุ้น AAV ที่อยู่ในช่วงระยะเวลาห้ามขายเพื่อเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงินจำนำ หรือการวางเป็นหลักประกันการกู้ยืมต่อไป จนครบกำหนดระยะเวลาการห้ามขายตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง