นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ระดับ 1,697.39 จุด ซึ่งถือว่าปรับตัวลดลง 1.4% จากเดือนก่อน และสอดคล้องกับทิศทางของตลาดเกิดใหม่ (emerging market) ส่วนใหญ่ในเอเชียที่ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิในหลายตลาด ได้แก่ หลักทรัพย์อินโดนีเซีย ไต้หวัน ไทย และฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ในเดือนดังกล่าวมีผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 18,894 ล้านบาท ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปี 2560 ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 17,067 ล้านบาท ซึ่งสวนทางกับผู้ลงทุนต่างประเทศในตลาดตราสารหนี้ของไทยที่มีสถานะซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นปี 2560 ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ SET และ mai ในเดือนพ.ย. รวมอยู่ที่ 58,887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตามดัชนีหุ้นไทยเดือน พ.ย.2560 ยังถือว่าเพิ่มขึ้น 10.0% จากสิ้นปี 2559 โดยตั้งแต่ต้นปี มี 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า SET Index ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มบริการ กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มธุรกิจการเงิน ตามลำดับ ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนพ.ย. 2560 อยู่ที่ 17.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% จากสิ้นปี 2559
นอกจากนี้สำหรับภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเดือนพ.ย. 2560 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 352,292 สัญญา ซึ่งเพิ่มขึ้น 26.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากการซื้อขาย Single stock futures ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วง 11 เดือนของปี 2560 อยู่ที่ 318,525 สัญญา เพิ่มขึ้น 11.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน