2 แม่ทัพหญิง “CHUBB” เปิดเกมรุกชิงเบี้ยประกันปี’61

“ชับบ์” หรือ CHUBB แบรนด์ประกันภัยระดับโลก ที่เชี่ยวชาญด้านบริการประกันภัยทรัพย์สินและประกันภัยเบ็ดเตล็ด ครอบคลุมกว่า 54 ประเทศทั่วโลก เดินเครื่องบุกตลาดประกันใน “ประเทศไทย” หลังสวมแบรนด์ CHUBB ใส่ในบริษัท เอซ กรุ๊ป (ACE) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ “ชับบ์ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์” และ “ชับบ์สามัคคีประกันภัย” ภายใต้การนำของ 2 แม่ทัพหญิง คือ “แซลลี่ โอฮาร่า” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชับบ์ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ และ “นิตยา พิริยะธรรมวงศ์” กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย ที่ผนึกกำลังวางกลยุทธ์ธุรกิจให้ทะยานติดลมบน

โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซีอีโอหญิง “แซลลี่ โอฮาร่า” แห่งชับบ์ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ กล่าวว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ชับบ์ ไลฟ์ฯเติบโตมากสุด โดยช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ต.ค. 60) มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวมแล้ว 3,266 ล้านบาท เติบโต 10% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะเบี้ยประกันรับปีแรกอยู่ที่ 824 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ซึ่งมาจากช่องทางตัวแทนสัดส่วน 50% โดยช่องทางนี้จะโดดเด่นในการเสนอขายแผนประกันตลอดชีพเป็นหลัก และขณะนี้เรามีตัวแทนราว 3,000 คน ที่คอยให้บริการลูกค้ากว่า 1 ล้านราย ส่วนอีก 50% มาจากช่องทางพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ แบงก์แอสชัวรันซ์ เทเลเซล ซึ่งเราจะโดดเด่นด้านประกันสินเชื่อ (MRTA)

“2-3 ปีที่ผ่านมา เราสังเกตว่าลูกค้าเริ่มมองหาแผนประกันความคุ้มครองมากขึ้น แถมยังมีความต้องการซื้ออนุสัญญาเพิ่มเติมเพิ่มขึ้นอีกด้วย เช่น แผนประกันสุขภาพ อุบัติเหตุส่วนบุคคล และโรคร้ายแรง ซึ่งเราแนะนำให้ลูกค้าซื้อสัญญาเพิ่มเติมขั้นต่ำ 3 แบบต่อ 1 กรมธรรม์อยู่แล้ว”

พร้อมกันนี้ได้วางเป้าหมายขยายลูกค้าใหม่ 4 หมื่นคน/เดือน โดยชับบ์ ไลฟ์ฯได้เตรียมแผนรองรับด้วยการขยายงานของสำนักงานตัวแทนที่มีอยู่กว่า 30 แห่ง และสาขาอีกกว่า 4 แห่ง ได้แก่ 1.ศูนย์ฝึกอบรมกรุงเทพฯ 2 แห่ง 2.ศูนย์ฝึกอบรม อ.ศรีราชา 1 แห่ง และล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 60 ที่ผ่านมา พึ่งเปิดศูนย์ฝึกอบรมสาขาใหม่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่นอีก 1 แห่ง รองรับการเติบโตในโซนภาคอีสาน เนื่องด้วยเป็นตลาดที่มีเบี้ยประกันเติบโตเป็นอันดับ 1 ของบริษัท

“นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 60 ชับบ์ ไลฟ์ฯยังได้พัฒนาระบบ e-Smart เครื่องมือสนับสนุนตัวแทนฝ่ายขายให้สามารถรีครูตและเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแก่ลูกค้าผ่านแท็บเลตเครื่องเดียว รองรับความสะดวกสบายด้วยบริการที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงอบรมให้กับหัวหน้าหน่วยและตัวแทนฝ่ายขาย เพื่อเรียนรู้ในการใช้เครื่องมือเหล่านี้”

แซลลี่ยังระบุถึงแผนในปี 2561 ว่า ชับบ์ ไลฟ์ฯจะต้องขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มากขึ้น เช่น สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพเหมาจ่าย ให้วงเงินก้อนหักตามค่าใช้จ่ายของลูกค้าแต่ละราย การขยายพัฒนาตัวแทนมืออาชีพ การดึงเทคโนโลยีรองรับการทำงานของพนักงานและฝ่ายขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาด้านบริการให้มีคุณภาพอย่างดีที่สุดต่อไป ซึ่งคาดว่าในแง่ของเบี้ยรับรวมจะเติบโต 2 หลักเช่นเดิม จากโปรดักต์คุ้มครองและสุขภาพ

ขณะที่ด้าน “นิตยา พิริยะธรรมวงศ์” กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย กล่าวว่า แม้ว่าปีนี้ชับบ์สามัคคีฯ อาจจะไม่เติบโตถึงเป้าหมาย แต่ก็จะรักษาการเติบโตด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท เติบโต 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือติดอันดับ 5 ของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย โดยธุรกิจหลักยังมาจากน็อนมอเตอร์ (ประกันภัยที่ไม่ใช่รถ) ที่มีสัดส่วนเกือบ 80% จะเป็นการเน้นขายประกันทรัพย์สินและประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอกให้กับลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก และอีก 20% เป็นพอร์ตมอเตอร์ (ประกันรถ)

“ปีนี้ประกันทรัพย์สินถือว่ายังค่อนข้างมีความท้าทาย สังเกตจากอัตราเบี้ยลดลงเฉลี่ย 6% จากปีก่อน ขณะที่ประกันรถยังคงเติบโตอย่างระมัดระวัง เนื่องจากบริษัทไม่มีนโยบายทำธุรกิจขาดทุน แต่เน้นรักษาคุณภาพของพอร์ตงาน ทุกวันนี้ประกันรถยนต์ทำกำไรยากจากการแข่งขันสูง แต่เชื่อว่าปีหน้าการแข่งขันจะไม่รุนแรงเท่า 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะประกันภัยต่ออาจจะไม่สนับสนุนตลาดมากนัก ทำให้ทุกบริษัทต้องระมัดระวังในการแข่งขันด้านราคา จึงอาจจะทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น” นิตยากล่าว

สำหรับแผนปี 2561 “นิตยา” กล่าวว่า จะเน้นพัฒนาตัวแทน/นายหน้า ให้ทำงานแอ็กทีฟมากขึ้น เพื่อจะสามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น เราอาจจะไม่ได้เพิ่มจำนวนตัวแทน/นายหน้ามากนัก แต่จะเน้นสร้างความรู้แต่ละโปรดักต์ให้ตัวแทนเข้าใจมากขึ้น รวมถึงต้องบริหารจัดการพอร์ตให้มีคุณภาพ รักษาระดับการทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้ดี นอกเหนือจากนั้นคือการดูแลคุณภาพด้านบริการให้ดีขึ้นทุกวัน ซึ่งตั้งเป้าเบี้ยรับรวมเติบโตราว 5% จากปีนี้

“อย่างไรก็ตาม ด้วยจุดเด่นด้านทีมเทเลมาร์เก็ตติ้งกว่า 600 คน ที่มีความรู้ทั้งด้านประกันวินาศภัยและประกันชีวิตในฐานะที่ปรึกษาให้คำแนะนำลูกค้าของ 2 บริษัท เราไม่ได้เสนอขายเฉพาะประกันวินาศภัย แต่จะพิจารณากลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มและเสนอโปรดักต์ประกันชีวิตไปด้วย เช่น ลูกค้าประกันกลุ่มมีความต้องการซื้อประกันชีวิต ทางทีมเทเลมาร์เก็ตติ้งจะทำหน้าที่แนะนำบริการให้ลูกค้าทันที ซึ่งถือเป็นโครงการหนึ่งที่เรายึดนโยบายบริษัทแม่แบบ “ONE CHUBB” นางนิตยากล่าวปิดท้าย

โดยปีหน้ายังเป็นอีกปีที่ท้าทายของ 2 แม่ทัพหญิง ที่จะต้องเดินหน้าเข็นแบรนด์ “ชับบ์” เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายติดแถวหน้าของวงการประกัน