THG โชว์กำไรสุทธิ ปี’64 โตทะลุ 100% โกยรายได้รักษาผู้ป่วยโควิด-ฉีดวัคซีน

เปิดข้อมูลรายได้บริษัทหมอบุญ

ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG เผยปี 2564 มีกำไรสุทธิ 1,337 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนมากกว่า 100% ชี้มีรายได้จาก “โควิด-19” ทั้งการเปิดบริการรักษาผู้ป่วย “โควิด-19” เต็มรูปแบบ-การเปิด ฮอตพิเทล-การให้บริการฉีดวัคซีน

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วานนี้ว่า ผลดำเนินงานปี 2564 เทียบปี 2563 บริษัทมีกำไรขั้นต้น 3,442 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 100 จาก 1,567 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 31.7 จากร้อยละ 21.4 เนื่องจาก THG มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเปิดให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 รวมทั้งยังคงมีการควบคุมบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อลดต้นทุน ทำให้อัตราการเติบโตของรายได้สูงกว่าต้นทุน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากการควบคุมบริหารจัดการค่าใช้ง่าย ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นจากการดำเนินธุรกิจซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 21.4 เป็นร้อยละ 23.5
โดยกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่เท่ากับ 1,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 100 จาก 62 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่เพิ่มขึ้น เป็นร้อยละ 12.3 จากร้อยละ 0.9 บาท มีสาเหตุหลักจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และการควบคุมบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

ทั้งนี้ ในปี 2564 THG มีรายได้รวม 10,848 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.3 จากธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ ที่มีรายได้ 10,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.7 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 THG ได้มีการเปิดให้บริการรักษาผู้ป่วยโรค COVID-19 แบบเต็มรูปแบบที่ โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ร่วมมือกับองค์กรภาครัฐเพื่อเปิดโรงพยาบาลเฉพาะกิจ และโรงแรมเอกชนเพื่อเปิดให้บริการ Hospitel รวมถึงการเปิดให้บริการฉีดวัคซีน ทั้งวัคซีนของภาครัฐ และวัคซีนทางเลือกให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยรายได้ที่เกี่ยวข้องกับโรค COVID-19 คิดเป็นร้อยละ 30.8 ของรายได้จากธุรกิจทางการแพทย์

ขณะที่ธุรกิจการบริบาลผู้ป่วยและเครื่องมือแพทย์ มีรายได้ 410 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.2 เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้ลูกค้ายังชะลอการตัดสินใจโอนห้อง ใน โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ในปี 2564 THG มีการรับรู้รายได้จากการ โอนห้องพักอาศัย จำนวน 18 ห้อง เมื่อเทียบกับปีก่อนมียอดโอนห้อง จำนวน 19 ห้อง แต่อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้THG มีการปรับแผนการดำเนินงานภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลธนบุรีบูรณา โดยจัดสรรพื้นที่ด้านหน้าโครงการเพื่อให้บริการ Drive thru สำหรับตรวจคัดกรองผู้ป่วย COVID-19 และจัดสรรพื้นที่ด้านในเพื่อให้บริการฉีควัคซีนตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มิ.ย.2564 รวมทั้งเปิดให้บริการ Hospitel ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2564 มีรายได้ประมาณ 220 ล้านบาท

ด้านต้นทุนรวมอยู่ที่ 7,406 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.8 มาจากธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ มีต้นทุน 7,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.7 ทาง THG ได้มีการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ทำให้สัดส่วนต้นทุนลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับยอดรายได้ โดยคิดเป็นร้อยละ 68.0 จากร้อยละ 79.0

ต้นทุนหลักของ THG ในงวดนี้ประกอบด้วย

  1. การลงทุนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะกิจและซื้อเครื่องมือแพทย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ป่วย COVID-19 ต้นทุนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ THG ได้รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายแล้วในปี 2564
  2. ค่าเช่าสถานที่ สำหรับดูแลผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงที่ Hospitel
  3. ค่าแพทย์และพนักงาน THG ได้มีการส่งแพทย์ พยาบาล และพนักงาน เพื่อให้บริการในโรงพยาบาลเฉพาะกิจ และ Hospitel ต่าง ๆ
  4. ค่าวิเคราะห์โรค ค่ายาและค่าเวชภัณฑ์ จากการ X-ray ปอด ค่าเจาะเลือด ค่ายาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการตรวจคัดกรองและรักษาผู้ป่วย COVID-19

นอกจากนี้ จากการยกเลิกสัญญารับจ้างบริหารกับโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ส่งผลให้ต้นทุนลดลง จำนวน 61 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.4 ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 1,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 มีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 64 ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากการเปิด Hospitel และโรงพยาบาลเฉพาะกิจ หากพิจารณาเปรียบเทียบกับรายได้รวม พบว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีสัดส่วนลดลงจากร้อยละ 19.2 เป็นร้อยละ 14.4

ทั้งนี้ THG มีต้นทุนทางการเงิน 299 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 เนื่องจากในปี 2564 THG มีการลงทุนเพิ่มในโครงการเฉพาะกิจ ทำให้มีเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น รวมถึงการก่อสร้างสินทรัพย์ส่วนใหญ่แล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/2563 ส่งผลให้ปี 2564 THG มีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม อัตราต้นทุนทางการเงินถัวเฉลี่ยยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน

สำหรับแนวโน้มในปี 2565 THG ยังคงให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 อย่างครบวงจร ทั้งในส่วนของการป้องกันและรักษา โดย THG ให้บริการฉีดทั้งวัคซีนทางเลือก และวัคซีนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และยังคงดำเนินการดูแลคนไข้ผ่าน Hospitel จำนวนประมาณ 2,000 เตียง โรงพยาบาลสนาม 3 แห่ง จำนวน 700 เตียง

สำหรับโรงพยาบาลใหม่ที่ลงทุนในช่วงที่ผ่านมา เริ่มมีผลประกอบการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะโรงพยาบาล ธนบุรี บำรุงเมือง โดยมีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคาและค่ตัดจำหน่ายสะสม (EBITDA) และ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ ทาง THG ได้เปิดศูนย์ wellness รวมถึงการให้บริการห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็บ) เพื่อให้บริการในส่วนของการดูแลสุขภาพผู้ป่วยหลังติด COVID-19 อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง การลงทุนวางแผนขยายโรงพยาบาลผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ ยังมีแผนในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าคนไทยให้มาใช้บริการมากขึ้น โดยการนำเอาเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการรักษา เพื่อให้ THG คงความสามารถในการแข่งขันต่อไปได้