BEM ชงผู้ถือหุ้นไฟเขียวควัก 1,223 ล้านบาท จ่ายปันผลปี 2564 หุ้นละ 0.08 บาท
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2565 เวลา 14.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพียงแบบเดียวเท่านั้น (E-AGM) โดยควบคุมการประชุมที่ห้องออดิทอเรียม ชั้น G อาคาร A บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- เปิดคำทำนาย “นางมโหธรเทวี” นางสงกรานต์ ปี 2567 ฝนตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
- สรุปวิธีใช้เงินดิจิทัล และเงินสด 10,000 บาท ใครขึ้นเงินสดได้บ้าง
ทั้งนี้ กำหนดให้วันพุธที่ 9 มีนาคม 2565 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Rccord Date) เพื่อสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 และเพื่อสิทธิรับเงินปันผล (โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XM หรือวันที่ไม่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 และขึ้นเครื่องหมาย XD หรือวันที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันอังคารที่ 8 มีนาคม 2565) และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันพุธที่ 27 เมษายน 2565
นอกจากนี้ คณะกรรมการพิจารณางบการเงินของบริษัทแล้วเห็นว่า ในปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการเป็นเงิน 771,862,867 บาท และมีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรเป็นเงิน 7,030,014,932 บาท จึงเห็นควรเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการจัดสรรเงินกำไรและการจ่ายเงินปันผล โดยจัดสรรเป็นทุนสำรองตามกฎหมายสำหรับปี 2564 เป็นเงิน 38.6 ล้านบาท จ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2564 โดยจ่ายจากกำไรสะสมในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท เป็นเงิน 1,223 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัท
สำหรับการจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2564 จ่ายจากกำไรส่วนที่เป็นเงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไรที่รับจากกิจการที่ผ่านการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ในอัตราร้อยละ 20 ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท ซึ่งผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลธรรมดาสามารถขอเครดิตภาษีคืนได้เท่ากับเงินปันผลคูณยี่สิบส่วนแปดสิบ และจ่ายจากกำไรทางบัญชีที่ไม่ผ่านการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท ซึ่งผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลธรรมดาไม่สามารถขอเครคิตภาษีคืนได้
ก่อนนี้ BEM รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิปี 2564 ลดลงราว 50% จากผลกระทบโควิด-19 ที่ทำให้ปริมาณรถที่ใช้ทางด่วน ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าลดลง กระทบต่อรายได้ของบริษัท ทั้งรายได้ค่าผ่านทางที่ลดลง 1,695 ล้านบาท รายได้ค่าโดยสารและรับจ้างเดินรถลดลง 1,066 ล้านบาท รวมถึงรายได้พัฒนาเชิงพาณิชย์ลดลง 3 ล้านบาท