กอบศักดิ์ชี้ใกล้จบยกแรกสงครามค่าเงินรัสเซีย ทุกฝ่ายออกหมัดเกือบหมดแล้ว

กอบศักดิ์ ภูตระกูล
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

รองผู้จัดการใหญ่แบงก์กรุงเทพชี้ใกล้จบยกแรกสงครามค่าเงินรัสเซีย แต่ละฝ่ายออกหมัดกันเกือบหมดแล้ว ระบุ “สหรัฐ-NATO” ภารกิจเสร็จสมบูรณ์

วันที่ 9 มีนาคม 2565 นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Dr.KOB” ระบุว่า ใกล้จบยกที่ 1 ของสงครามค่าเงินรัสเซีย 3 วันที่ผ่านมา ธนาคารกลางรัสเซียดูเหมือนจะขีดเส้นไว้ที่ 130 รูเบิล/เหรียญ โดยพยายามลากค่าเงินรูเบิลให้มีเสถียรภาพและสู้กันที่จุดนี้

ทั้งนี้ ที่บอกว่าใกล้จบยกที่ 1 ก็เพราะว่าทุกคนได้ออกหมัดไปเกือบหมดแล้ว นโยบายที่ทุกคนกังวลใจที่สุด ก็คือ “การไม่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย” ดูเหมือนว่าจะมีเพียงแค่สหรัฐเป็นหลักที่จะเป็นผู้ออกนโยบายดังกล่าว โดยที่ประเทศในกลุ่มยุโรปโดยเฉพาะเยอรมันที่ยังคงต้องใช้ก๊าซจากรัสเซียต่อไป การจะหาทางเลือกอื่นมาทดแทนคงต้องใช้เวลาในการสร้างโครงสร้างต่าง ๆ มารองรับ เช่น ท่ารับ LNG เป็นต้น

ส่วนการ Sanctions อื่น ๆ ของฝั่งตะวันตกก็ได้ดำเนินการไปเกือบหมดแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการ Freeze เงินสำรองต่างประเทศของรัสเซีย การกันออกจากระบบ Swift การไม่ให้ทำธุรกรรมผ่านธนาคารของสหรัฐและพันธมิตร การไม่ให้ระดมทุน

ส่วนฝั่งรัสเซียก็ได้ออกหมัดเกือบหมดแล้วเช่นกัน นโยบายสุดท้ายที่ออกมาล่าสุด เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) ก็คือ การห้ามไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ในรัสเซียแลกธนบัตรเงินตราต่างประเทศแก่คนในรัสเซียเป็นเวลา 6 เดือน ส่วนคนที่มีบัญชีเงินตราต่างประเทศอยู่แล้ว สามารถถอนได้แต่ไม่เกิน 10,000 เหรียญ ที่เหลือต้องรับเป็นเงินรูเบิลเท่านั้น

นโยบายนี้เป็นหมัดเด็ดสุดท้ายที่ออกมาเพื่อใช้ร่วมกับนโยบายอื่นที่ออกมาแล้วที่จะมีผลก็เพราะปกติแล้วการเก็งกำไรสามารถทำได้จากคนประมาณ 4 กลุ่ม

1. นักลงทุนและเก็งกำไรจากต่างประเทศ
2. ธนาคารพาณิชย์ในรัสเซีย
3. ผู้ส่งออกนำเข้า
4. ประชาชน

ทั้ง 4 กลุ่มนี้ ธนาคารกลางรัสเซียได้ประกาศควบคุมหมดแล้ว นักลงทุน-ถูกปิดตลาดหลักทรัพย์ ถูกห้ามไม่ให้ขายสินทรัพย์ในรัสเซีย, ธนาคารพาณิชย์ในรัสเซีย-อยู่ในมือของธนาคารกลางแต่ต้น ไม่น่ากังวลใจ, ผู้ส่งออก-นำเข้า-ถูกกำหนดให้เอาเงินเหรียญที่ได้มา 80% ออกมาขาย (ไม่ให้เก็บไว้ให้เก็งกำไร), กลุ่มสุดท้ายที่ยังเป็นช่องโหว่ก็คือ ประชาชนที่เข้าแถวแลกเงินในช่วงที่ผ่านมา

“ยิ่งค่าเงินรูเบิลอ่อน คนยิ่งเข้าแถวมากขึ้น ทำให้เงินตราต่างประเทศไหลออกจากคลังหลวงของธนาคารกลางรัสเซียมากขึ้น หากปล่อยไปเช่นนี้ เงินสำรองร่อยหรอก็จะกลายเป็นปัญหาในที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจว่า เมื่อวานนี้จึงออกมาประกาศนโยบายดังกล่าว ทำให้คนที่จะเก็งกำไรทั้ง 4 กลุ่มถูกจำกัดการดำเนินการครบทุกกลุ่ม”

สิ่งที่ยังพอเป็นช่องโหว่เหลืออยู่อยู่บ้าง คือ การซื้อทอง การซื้อคริปโต การจ่ายชำระพันธบัตรและหนี้ต่าง ๆ ของรัฐและเอกชน (ซึ่งสุดท้ายก็สามารถประกาศ Debt Moratorium ได้) เรียกว่า Extraordinary Times, Extraordinary Measures

นายกอบศักดิ์ระบุอีกว่า ด้วยนโยบายเหล่านี้ สมรภูมิรบเรื่องค่าเงินจะเข้าสู่สมดุลมากขึ้น เอื้อให้ธนาคารกลางรัสเซียสามารถประคองสถานการณ์และตัดสินใจอีกครั้งว่า 130 รูเบิล ตลาดมีเสถียรภาพพอหรือไม่ ส่วนสหรัฐและพันธมิตร NATO ก็ได้บรรลุผลเช่นกัน เพราะหากเราย้อนกลับไปดู ค่าเงินรูเบิลได้อ่อนค่าลงต่อเนื่องจากช่วงแรกของการสถาปนารัสเซีย ค่าเงินอยู่ที่ 1 รูเบิล/เหรียญ แต่ล่าสุดอ่อนจาก 75 รูเบิล/เหรียญ ไปแตะ 177 รูเบิล/เหรียญ ก่อนกลับมาที่ 130 รูเบิล/เหรียญ

“ทั้งหมดหมายความว่า ในเวลาสั้น ๆ เพียง 10 กว่าวัน ขนาดเศรษฐกิจของรัสเซียได้เล็กลงอีกครึ่ง (เมื่อคิดเป็นรูปเงินเหรียญ) และความสามารถในการสะสมเทคโนโลยี สะสมยุทโธปกรณ์และแข่งขันในเชิงอำนาจทางการทหารจะลดลงมาก ยิ่งไปกว่านั้น เศรษฐกิจรัสเซียจะต้องปรับตัวกับเงินเฟ้อสูง และวิกฤตทางเศรษฐกิจวิกฤตทางสังคม Mission Accomplished !!! (ภารกิจเสร็จสมบูรณ์) สำหรับสหรัฐและ NATO”