“กอบศักดิ์” ชี้รัสเซียเปิดเกมรบด้านเศรษฐกิจแบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” ขึ้นบัญชีดำบริษัทที่ถอนการลงทุนออกจากแดนหมีขาว เผยรัฐบาล “ปูติน” มีรายชื่ออย่างน้อย 59 บริษัทแล้ว เชื่อรัสเซียยังมี “หมัดเด็ด” อีกหลายหมัด คาดมีโอกาสงัดวิธี “ชักดาบ” มาใช้ ห่วงกระทบคนบริสุทธิ์ทั่วโลก
วันที่ 11 มีนาคม 2565 นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Dr.KOB” ระบุถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนว่า เป็นแบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน !!!” แล้ว สำหรับ “สมรภูมิใหม่ในการรบด้านเศรษฐกิจ” จากล่าสุด ประธานาธิบดีปูตินสั่งเตรียมการยึดสินทรัพย์ของบริษัทที่ถอนตัวออกจากรัสเซีย
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
รวมถึงขึ้นบัญชีดำบริษัทเหล่านี้ว่า เคยมีพฤติกรรมร่วมทำร้ายรัสเซีย และจดชื่อเอาไว้ เพื่อไม่ให้กลับมาที่รัสเซียในอนาคต ซึ่งอดีตประธานาธิบดี Medvedev อธิบายเพิ่มเติมว่า จะยึดหลักการ “Symmetrical Response” หรือแปลเป็นไทยว่า “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”
เป้าหมายคือ 1.ประเทศที่มีการยึดสินทรัพย์ของรัสเซีย 2.บริษัทที่มีการประกาศถอนตัวออกจากรัสเซีย
ส่วนบริษัทที่หยุดกิจการ ปิดไปเฉย ๆ ก็อาจจะหาคนเข้าไปบริหารแทน เพื่อดูแลการจ้างงานและการผลิตให้ไม่สะดุดลง และกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ล่าสุด รายชื่อบริษัทที่ตัดสินใจออกจากรัสเซียมียาวเป็นหางว่าว ตั้งแต่ McDonald’s, Starbucks, Coca-Cola, Pepsi, Shell, BP, Apple, Microsoft, IBM, IKEA, H&M, Volkswagen, Toyota รวมไปถึงบริการชำระเงิน VISA, Apple pay, Google Pay เป็นต้น (ขณะนี้องค์กรผู้บริโภครัสเซียได้ส่งชื่อให้รัฐบาลไปแล้วอย่างน้อย 59 บริษัท)
นอกจากนี้ เครื่องบินที่เช่ามาให้ Aeroflot ก็อยู่ในข่ายที่จะไม่คืนเช่นกัน
นายกอบศักดิ์ระบุว่า ปกติแล้ว เรื่องอย่างนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้น เพราะ (1) จะนำไปสู่การฟ้องร้อง และ (2) สร้างชื่อเสียงที่ไม่ดีให้กับประเทศ เพราะถ้าไปลงทุนแล้ว สุดท้ายอยู่ ๆ ถูกยึดเป็นของประเทศ ก็จะเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่ง โดยประเทศที่เคยทำเช่นนี้ นักลงทุนก็จะจดไว้เช่นกัน
“ทั้งนี้ รัสเซียคงอธิบายว่า สินทรัพย์ของรัสเซีย ก็ถูกยึดเช่นกัน เมื่อคุณยึดของผมได้ ผมก็ยึดของคุณได้ นอกจากนี้ อีกไม่นานเรามีความเสี่ยงที่อาจจะเห็นรัสเซีย ประกาศหยุดชำระหนี้ (ชักดาบ) ในพันธบัตรต่าง ๆ ของรัสเซีย ที่กำลังถูก downgrade อยู่ในขณะนี้ (รวมถึงคงขอให้ไปถอนเอาเองจากเงินสำรองที่ถูกยึดไป ??) สินทรัพย์ที่ต่างชาติมีอยู่ในรัสเซีย หรือลงทุนในรัสเซียมีอยู่ประมาณ 7-8 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อไป”
นายกอบศักดิ์ระบุอีกว่า นโยบายเหล่านี้ Nationalization หรือ Debt Moratorium เป็นนโยบายที่ปกติแล้ว ประเทศต่าง ๆ ขีดเส้นว่า “ไม่ทำ” แต่เมื่ออีกข้าง ประกาศใช้มาตรการแรงที่ปกติ “ไม่ทำ” เช่นกัน เช่น Freeze เงินสำรองต่างประเทศ ยึดสินทรัพย์ของธนาคารรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐและยุโรป ตลอดจนยึดสินทรัพย์ของเจ้าสัวรัสเซีย เมื่อมาถึงจุดนี้ อะไรอะไรก็เกิดได้
ทั้งหมดจะส่งผลให้คนที่อยากจะประกาศออกจากรัสเซีย ก็คงลังเลใจที่จะประกาศทันที อาจจะต้องค่อย ๆ วางแผน ลด Stock ต่าง ๆ ลง คนที่มีหุ้น มีสินทรัพย์ ก็คงต้องค่อย ๆ ผ่องสินทรัพย์ของตนออกไป เพราะว่าถ้าประกาศกะทันหัน สุดท้ายทุกอย่างที่ลงทุนไป จะหายไปในพริบตา คงต้องหาสมดุลที่เหมาะสมในการ Exit
เรียกได้ว่า สมรภูมิรบด้านเศรษฐกิจกำลังดุเดือด เข้มข้นขึ้น และกำลังลุกลามไปด้านเศรษฐกิจจริง บริษัท ร้านค้า สินทรัพย์ต่าง ๆ จากเดิมที่อยู่ในตลาดการเงิน เช่น ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร และระบบธนาคารพาณิชย์ เป็นสำคัญ และรัสเซียยังมีหมัดเด็ดอีกหลายหมัดที่ยังไม่ได้ใช้
“ผลพวงก็คือ คนบริสุทธิ์ทั่วโลก ที่พลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย ตามที่เขาพูดกันว่า “สงครามไม่เคยปรานีใคร” ดีที่สุดคือ “ไม่มีสงคราม” เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ” นายกอบศักดิ์ระบุ