เงินบาททยอยแข็งค่า กสิกรฯแนะจับตาประชุม กนง.-มุมมองเศรษฐกิจปี 2561

“เงินบาททยอยแข็งค่า ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 2 ปี 8 เดือน ที่ 32.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงมุมมองต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าไว้ตามเดิม แม้จะเฟดจะมีการปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีหน้าขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ก็เป็นปัจจัยลบที่กดดันค่าเงินดอลลาร์ฯ ในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

สำหรับในวันศุกร์ (15 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 ธ.ค.) 

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.50-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจในประเทศน่าจะอยู่ที่ผลการประชุมกนง. และมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ของธปท. ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ยอดขายบ้านใหม่/บ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน การเริ่มสร้างบ้าน/การอนุญาตก่อสร้าง ข้อมูลรายได้/การใช้จ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index เดือนพ.ย. ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. และตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 3/60 นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามความคืบหน้าของแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,717.69 เพิ่มขึ้น 0.65% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณ 6.28% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 48,862.05 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 534.06 จุด ลดลง 0.89% จากสัปดาห์ก่อน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ตามแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร ก่อนจะทยอยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากการซื้อหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม SET 50 ขณะที่ แรงซื้อของกลุ่มกองทุนในประเทศ โดยเฉพาะกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เข้ามาช่วยหักล้างแรงขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติและรายย่อย

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,705 และ 1,695 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,730 และ 1,750 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินไทย (20 ธ.ค.) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ รายงานจีดีพีไตรมาส 3/60 ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสอง รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย. ตลอดจนดัชนีการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนธ.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศกลุ่มยูโรเดือนพ.ย.

 


ที่มา : มติชนออนไลน์