ตลาดหุ้นกางแผนปี’61 ดัน IPO ทะลุ 5 แสนล้าน

ตลท.กางแผนปี’61 ดึงธุรกิจหัวเมืองและตปท.เข้าจดทะเบียนเพิ่ม ดันไอพีโอทะลุ 5.5 แสนล้าน หลังปีนี้ทำสถิติหุ้นไอพีโอ 40 บริษัท มูลค่ากว่า 4 แสนล้าน พร้อมเดินหน้า 3 มาตรการยกระดับคุณภาพ บจ.

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในปี 2561 เชื่อว่าบรรยากาศการลงทุนน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปีนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวน่าจะส่งผลให้ภาวะการลงทุนก็น่าดีขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง เพราะปกติการเติบโตของ บจ.จะสูงกว่าจีดีพีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นผลจากการกระจายการลงทุนออกไปต่างประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน โดยมองว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยบวกให้แก่ตลาดหุ้นไทยในปีหน้าได้

“ปีหน้าคิดว่าจะเป็นปีที่ดีขึ้นในแง่ของปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน และเรื่องผลประกอบการ รวมถึงผู้ลงทุนเองที่แม้อัตราดอกเบี้ยอาจปรับขึ้น แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในระดับต่ำ ทำให้ความสนใจลงทุนในสินทรัพย์ที่เรียกว่าหุ้นยังน่าสนใจอยู่ และยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตราสารหนี้” นางเกศรากล่าว

สำหรับบริษัทที่เข้าจดทะเบียนใหม่หรือเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 40 บริษัท ด้วยมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งปีนี้ถือว่าคึกคักมากหลังจากดัชนีทะลุ 1,700 จุด และปีหน้าคาดว่าจะมีหุ้นไอพีโอไม่ต่ำกว่า 30 บริษัท ซึ่งก็จะช่วยผลักดันให้ตลาดหุ้นคึกคักมากขึ้น

ขยายกลุ่มธุรกิจ-บุกหัวเมือง

นางเกศรากล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจที่เข้ามาจดทะเบียนมีความหลากหลายมากขึ้น และธุรกิจที่เข้ามาจดทะเบียนก็จะสะท้อนเทรนด์ของอนาคต เช่นกลุ่มเฮลท์แคร์ที่ปัจจุบันมี บจ.ในกลุ่มถึง 21 ตัว หรือกลุ่มโลจิสติกส์ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเทรนด์ธุรกิจใหม่ ๆ ที่เข้ามา ก็ทำให้นักลงทุนมีตัวเลือกการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ที่สะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงของประเทศมากขึ้น

รวมถึงในส่วนของการส่งเสริมธุรกิจต่างจังหวัดเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯมากขึ้น เพราะปัจจุบันหัวเมืองใหญ่ ๆ มีความเจริญไม่ได้แพ้กรุงเทพฯ ถือเป็นโอกาสในการคัดสรรบริษัทที่มีคุณภาพเข้ามาจดทะเบียน ซึ่ง ตลท.ก็มีทีมงานเดินสายไปทั่วประเทศ เพื่อให้ความรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน และไม่ใช่เฉพาะแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ตลท.มีทีมงานเดินสายออกไปต่างประเทศด้วยเพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ในตลาด ซึ่งปีนี้ก็จะมีกองรีทส์จากต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในช่วงปลายปีนี้

3 มาตรการคุมเข้มคุณภาพ บจ.

ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯกล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องคุณภาพบริษัทจดทะเบียนนั้น ยอมรับว่ายังมีบางบริษัทที่มีปัญหา แต่ถือว่ามีจำนวนน้อย ซึ่งสิ่งที่ ตลท.จะทำในปีหน้ามี 2-3 เรื่อง ได้แก่ 1.การเพิ่มเครื่องหมาย C (caution) บนกระดานหุ้น สำหรับบริษัทที่มีสถานะการเงินที่ย่อหย่อน เช่นกรณีผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัทไม่แสดงความเห็น การขึ้นเครื่องหมาย C เพื่อเตือนนักลงทุนถึงฐานะการเงินของบริษัทที่อาจมีปัญหา แต่ยังคงสามารถซื้อขายได้ด้วยเงินสด โดยขณะนี้ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นไปแล้ว และคาดว่าจะมีการประกาศใช้ในช่วงเดือน พ.ค.ปี 2561

เรื่องที่ 2 เป็นการดูแลบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนตั้งแต่ต้นทาง โดยปัจจุบัน ตลท.มีทีมที่พบกับบริษัทที่สนใจเข้าจดทะเบียนอย่างเข้มข้นทั้งแบบ one on one และทำคอร์สเทรนนิ่งต่าง ๆ ว่าในการนำบริษัทมาไอพีโอต้องมีภาระหน้าที่อะไรบ้าง ต้องเตรียมตัวอะไรบ้างจนถึงวิธีการเลือกที่ปรึกษาการเงิน เพื่อให้รู้ว่าการระดมทุนในตลาดหุ้นมีทั้งประโยชน์ และมีทั้งหน้าที่ภาระที่ต้องรับผิดชอบต่อผู้ลงทุนอย่างไรบ้าง เพราะปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นจำนวนมาก

ส่วนเรื่องที่ 3 นอกเหนือจากการมีเครื่องหมายเตือนนักลงทุนในกรณีที่บริษัทเริ่มมีปัญหาแล้ว ก็ดูแลบริษัทจดทะเบียนให้อยู่ในวิธีการปฏิบัติที่เหมาะสม โดยแนะนำให้ บจ.คำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดีไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้คือความพยายามในการทำให้ บจ.มีคุณภาพตั้งแต่ก่อนเข้า และหลังเข้ามาจดทะเบียนในตลาดก็ต้องอยู่กันแบบมีคุณภาพไปตลอด

ปีหน้า IPO ทะลุ 5 แสน ล.

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลท.ตั้งเป้ามาร์เก็ตแคปหุ้นไอพีโอปีหน้าที่ระดับ 5.5 แสนล้านบาท จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะทำมาร์เก็ตแคปหุ้นไอพีโอจบได้ระดับ 4.1 แสนล้านบาท ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งหากรวมกับ secondary offering อีกประมาณ 2 แสนล้านบาท ก็ส่งผลให้การระดมทุนในตลาดแรกปีนี้มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปรวมที่เพิ่มขึ้นกว่า 6 แสนล้านบาท

“มาร์เก็ตแคปหุ้นไอพีโอที่เพิ่มขึ้น ก็ได้ผลักดันให้มาร์เก็ตแคปของทั้งตลาดขยับขึ้นมาอยู่ที่ 17.4 ล้านล้านบาท และทำให้ปีนี้มาร์เก็ตแคปทั้งหุ้นเก่าและหุ้นใหม่ทำลายสถิติสูงสุด และคาดว่าจำนวนหลักทรัพย์ที่เข้าใหม่น่าจะจบที่ 41 หลักทรัพย์”


สำหรับภาวะตลาดไอพีโอปีหน้า คาดว่าจะคึกคักต่อเนื่อง เพราะมีบริษัทที่สนใจเข้ามาจดทะเบียนอยู่อีกจำนวนมาก รวมทั้งบริษัทขนาดใหญ่ คาดว่าปีหน้าจะยังทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนการนำบริษัทต่างประเทศเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น คาดว่าปีหน้าจะมีอย่างน้อย 1 บริษัท จากช่วงปลายปีนี้ที่จะมีกองทรัสต์ต่างประเทศ 1 กอง คือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบต่ออายุได้เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่าสแตรทิจิก ฮอสพิทอลิตี้ (SHREIT) เข้ามาจดทะเบียนตลาดหุ้นไทยวันที่ 27 ธ.ค.นี้