อนุชาพบหวยแพง 6.5 ล้านใบ ลุยตัดสิทธิผู้ขายเกินราคา

อนุชา นาคาศัย
อนุชา นาคาศัย

“อนุชา” คณะกรรมการแก้หวยแพง เผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา บุกค้น 2 “มังกรฟ้า-กองสลากพลัส” พบสลากขายเกินราคา 6.5 ล้านใบ เร่งขยายผล ตัดสิทธิ ยกเลิกโควตาตัวแทนจำหน่าย-ผู้มีสิทธิซื้อจอง พร้อมเร่งรัดกระบวนการคัดกรองหาผู้ขายสลาก 80 บาทตัวจริงต่อไป

วันที่ 28 มีนาคม 2565 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฐานะประธานในการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมเพื่อรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ 3 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายและคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล

โดยในส่วนแรก คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากเกินราคา ที่มีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอนุกรรมการ ได้มอบหมายให้พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน ล่าสุด ได้เข้าตรวจค้นที่ บริษัท มังกรฟ้า ล็อตเตอรี่ จำกัด และ บริษัท มังกรฟ้าแม่พลอย ครัวอยู่ศรี จำกัด จ.นนทบุรี และบริษัท มังกรฟ้าฯ สาขาเมืองเลย จ.เลย

ทั้งนี้ ตรวจพบสลากกินแบ่งรัฐบาลมากกว่า 2 ล้านฉบับ นำมาเสนอขายในเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของมังกรฟ้าในราคาเริ่มต้นฉบับละ 105 บาท ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล ตรวจสอบสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่าเป็นสลากของตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ซื้อ-จองล่วงหน้ารายใด เพื่อนำไปสู่การยกเลิกสัญญาตัวแทนจำหน่ายและยกเลิกการลงทะเบียน กรณีซื้อจองล่วงหน้าต่อไป

ขณะที่ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลาก ที่มี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดนั้น ได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการเบิกจ่ายสลากของผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าที่ที่ทำการไปรษณีย์ 95 แห่ง ทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงตรวจสอบการจำหน่ายสลากของผู้จำหน่ายตามแผงจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมทั้งดำเนินการสืบสวน ตรวจสอบเป้าหมายผู้ค้าคนกลางที่มีพฤติกรรมในการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด

และวันเดียวกันนี้ ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจค้นตามหมายค้นของศาลอาญา ณ ที่ทำการ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด อาคารเอสเอสพีทาวเวอร์ 1 สุขุมวิท 63 กทม. ผู้ประกอบกิจการแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ของกองสลากพลัส พบจำนวนสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนกว่า 4.7 ล้านฉบับ ซึ่งสำนักงานสลากฯ จะต้องนำไปขยายผลในการตรวจสอบผู้เป็นเข้าของโควตาสลากเพื่อทำการยกเลิกสัญญาต่อไป

สำหรับความคืบหน้าการทำงานของคณะอนุกรรมการ ศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งมีนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอนุกรรมการฯได้มีการศึกษาข้อมูล โครงสร้างราคาและรูปแบบโดยรวมของธุรกิจสลาก เพื่อนำไปสู่การศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ว่าจะต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างไร และพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยมาตรการทางกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการทางแพ่ง ทางอาญา และกฎหมายอื่น ๆ

“ขณะนี้มีโทษทางอาญาตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่ควรมีการพิจารณาทบทวนว่า โทษทางอาญาที่ฐานความผิดที่มีอยู่ เพียงพอที่จะควบคุมได้หรือไม่ รวมถึงการพิจารณาโทษสำหรับผู้ที่กระผิดซ้ำซากด้วย และมาตรการทางกฎหมายอื่น ๆ ได้แก่ กฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร และกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งจะนำไปสู่ข้อเสนอในการปรับปรุงสัญญา หรือการออกใบอนุญาตตามประเภทผู้จำหน่ายสลากต่อไป”

ด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหากล่าวว่า ในส่วนของของมาตรการต่าง ๆ ทั้ง 3 รูปแบบ ตามโรดแมปของสำนักงานสลากฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงการสลาก 80 โครงการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล และโครงการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มโดยสำนักงานสลากฯนั้น คณะอนุกรรมการจะติดตามทั้ง 3 แนวทางอย่างใกล้ชิดรวมทั้งนำปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นมาร่วมกันหารือเพื่อให้เกิดความรอบคอบครบถ้วน เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปตามวัตถุประสงค์


“จากนี้ไปจะมีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและจัดทำสำมะโนประชากรคนขายสลากเพื่อเป็นการคัดกรองผู้ที่ขายจริง ตัดสิทธิตัวแทนจำหน่ายที่นำสลากไปขายส่ง และควบคุมตัวแทนจำหน่ายที่อยู่ในระบบของสำนักงาน ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สำนักงานกำหนด ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2,480 ราย ตั้งแต่วันที่ 13-27 มีนาคม 2565 พบว่าเป็นตัวแทนจำหน่าย 18% ผู้ซื้อ-จองล่วงหน้า 31% และเป็นผู้ค้านอกระบบ 51%”