บอร์ด PPP ตั้งคณะอนุกรรมการข้อตกลงคุณธรรม เพิ่มความโปร่งใสโครงการร่วมลงทุน

สคร.เผย บอร์ด PPP ตั้งคณะอนุกรรมการข้อตกลงคุณธรรมในโครงการร่วมลงทุน พร้อมแจ้งชื่อ 3 โครงการเข้าเงื่อนไข ส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ในการดำเนินการ

วันที่ 19 เมษายน 2565 นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ PPP ครั้งที่ 3/2565 เมื่อวันจันทร์ที่ 18 เมษายน 2565 โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งมีผลการประชุมสรุปได้ดังนี้

1. คณะกรรมการ PPP เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการข้อตกลงคุณธรรมในโครงการร่วมลงทุน

ที่ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ ปี 2562) โดยมี องค์ประกอบจาก สคร. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรมบัญชีกลาง และผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact : IP)

และโครงการร่วมลงทุน เพื่อทำหน้าที่ติดตาม ประสานงาน และสนับสนุนการดำเนินงานที่เกี่ยวกับข้อตกลงคุณธรรมในโครงการร่วมลงทุนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

2. คณะกรรมการ PPP ได้รับทราบความคืบหน้าการนำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้กับโครงการร่วมลงทุน

โดยปัจจุบันมีโครงการร่วมลงทุนที่อยู่ระหว่างกระบวนการการคัดเลือกเอกชนและเข้าข่ายต้องดำเนินการตามข้อตกลงคุณธรรม จำนวน 4 โครงการ ซึ่ง สคร.ได้แจ้งรายชื่อผู้สังเกตการณ์ไปยังหน่วยงานเจ้าของโครงการแล้ว จำนวน 3 โครงการได้แก่

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ของกรมการขนส่งทางบก

และโครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยสำหรับโครงการบริหารจัดการท่าเทียบเรือสาธารณะเพื่อขนถ่ายสินค้าเหลว ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หน่วยงานที่ สคร. มอบหมายอยู่ระหว่างการพิจารณารายชื่อผู้สังเกตการณ์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ก่อนจัดส่งให้ สคร. เพื่อประกอบการดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ การนำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้กับโครงการร่วมลงทุน จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในการดำเนินโครงการร่วมลงทุน รวมถึงกระบวนการตัดสินใจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าประสงค์สำคัญของ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ ปี 2562 รวมทั้งยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนภาคเอกชนที่จะเข้ายื่นข้อเสนอในโครงการร่วมลงทุนมากขึ้น