คลังประเมินค่าเงินบาททั้งปี’65 อยู่ที่ระดับ 33.10 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงมาจากปีที่แล้ว 3.4% ชี้เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้น-ส่งออกขยายตัวดี หนุนปลายปีเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่า ห่วงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย-สงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” กระทบค่าเงินบาท
วันที่ 27 เมษายน 2565 นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 33.19 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยอ่อนค่าลงจากค่าเฉลี่ยปี 2564 ที่ผ่านมา 7% ส่วนทั้งปี 2565 กระทรวงการคลังประเมินว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง อยู่ที่ระดับ 33.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นการอ่อนค่าลง 3.4% จากค่าเฉลี่ยปี 2564 ทั้งปี ที่อยู่ระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ประเทศไทยเดินหน้าแผนการฉีดวัคซีนมีความคืบหน้าต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่มีประสิทธิภาพ ส่งทำให้สถานการณ์แพร่ระบาดคลี่คลายลง และจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้จากแผนการเปิดประเทศ และการส่งออกที่เติบโตได้ดี จะทำให้ความต้องการเงินบาทเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายปีได้
“การประมาณการของเราสอดคล้องกับศูนย์คาดการณ์หลายๆ แห่ง ที่มองว่าช่วงหลังของปีค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น โดยเราก็มองว่าทั้งปี เงินบาทจะอยู่ที่ระดับ 33.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ”
ขณะที่ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทแน่นอน คือ 1. สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างๆ ทำให้นักลงทุนบางส่วนหันไปถือครองสินทรัพย์การเงินปลอดภัย เช่น ทอง มากขึ้น และการดำเนินนโยบายหลักของบางประเทศที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อดูแลเรื่องเงินเฟ้อ อย่างกรณีของสหรัฐจะส่งผลต่อค่าเงินบาทได้
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยต่างๆ จะส่งผลต่อความแตกต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้เงินทุนไหลออกจากภูมิภาคเอเชียไปสู่สหรัฐได้ ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไปได้บ้าง แต่คาดว่าความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยจะไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก