KTBST คาดการณ์ตลาดหุ้นอาจมีการรีบาวด์ แต่ทิศทางยังไม่แน่นอน ผลการประชุม Fed-OPEC กับรัสเซีย

KTBST คาดการณ์ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (24-27 ก.ค.) อาจมีการรีบาวด์ แต่ทิศทางยังไม่แน่นอน ผลการประชุม Fed และ OPEC กับรัสเซีย จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาด ควรเน้นลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยบวก มองดัชนีสัปดาห์นี้ผันผวนในกรอบ 1,566 -1,590 จุด หุ้นแนะนำ AMATA, KCE, KSL, JWD, BCH

ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (24-27 ก.ค. ) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (25-26 ก.ค.) จะเป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนจับตามอง โอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ยังคงเป็น 0% แต่หาก Fed ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยและลดขนาดงบดุลที่ชัดเจนจะมีผลต่อตลาด อย่างไรก็ตาม ด้วยเสถียรภาพของประธานาธิบดีสหรัฐฯในเวลานี้ Fed อาจไม่กล้าออกตัวแรงต่อการลด QE ขณะเดียวกันสัปดาห์นี้ต้องจับตาดูการพิจารณากฎหมายสุภาพของสหรัฐฯที่คาดว่าจะกลับสู่สภาฯอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังต้องติดตามผลการประชุมระหว่าง OPEC และรัสเซีย ในวันจันทร์ (24 ก.ค.) ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ปรับตัวสูงขึ้นมาจากสัปดาห์ก่อนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ลดต่ำลง อย่างไรก็ตามการผลิตน้ำมันของ OPEC เดือน ก.ค.33 ล้านบาร์เรล สูงขึ้น 1.4 แสนบาร์เรล กลายเป็นตัวกดดันต่อราคาน้ำมันดิบในวันศุกร์ ปัจจุบันเราให้แนวต้านของราคาน้ำมันดิบไว้ที่ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากการประชุมระหว่าง OPEC และรัสเซียมีการตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงอีกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบและหุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี โดยตรง

“ทิศทางตลาดสัปดาห์นี้จะไปอยู่ที่การประชุม FOMC การพิจารณากฎหมายสุขภาพของสหรัฐฯ , การรายงานผลประกอบการของแต่ละตลาด รวมถึงทิศทางราคาน้ำมัน ประเมินว่า SET Index สัปดาห์นี้ หากประชุม Fed หรือ ประชุมผู้ผลิตน้ำมันมีผลออกมาที่ดี ตลาดหุ้นอาจเกิด Technical Rebound เพราะหุ้นหลายๆตัวถูกขายหนักในสัปดาห์ก่อน คาดว่าดัชนีสัปดาห์นี้จะผันผวนในกรอบ 1,566 -1,590 จุด”

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ด้วยความไม่แน่นอนในทิศทางตลาดการเข้าลงทุนจึงความเน้นหุ้นที่มีความปลอดภัยสูงหรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลประกอบการไตรมาส 2 , หุ้น Defensive หรือหุ้นที่จ่ายปันผลสูง เพราะจะถึงช่วงของการจ่ายเงินปันผลกลางปี ขณะเดียวกันควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก โดยไม่ปัจจัยบวกรองรับ เช่นหุ้น P/E สูง แต่กำไรปรับตัวลง เพราะหากดัชนีฯกลับลงไปที่ 1,566 จุด อาจมีแรงขายหุ้นเหล่านี้อีกครั้ง ดังนั้นการเข้าซื้อหุ้น ควรรอจังหวะตั้งรับและเลือกตัวที่มีแรงซื้อเข้า เนื่องจากตลาดสัปดาห์นี้คาดว่าจะมีลักษณะของเลือกสลับเล่นเป็นรายตัวไป (Selective & Switching) อยู่ต่อไป หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ อาทิ AMATA , KCE, KSL , JWD, BCH หุ้นแนะนำเชิงเทคนิค อาทิ ESSO , SIRI