ซิงเกอร์ ส่ง “เอสจีแคปปิตอล” ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นไอพีโอภายในเดือน พ.ค.นี้ คาด ก.ล.ต.ไฟเขียวไตรมาส 3/65 ซื้อขายภายในปีนี้ ตั้งเป้ารายได้กลุ่มเติบโต 75% คาดเป้าสินเชื่อคงค้างแตะ 1.55 หมื่นล้าน เฉพาะธุรกิจสินเชื่อรถทำเงินคาดปล่อยสินเชื่อใหม่ 5,500 ล้านบาท ยืนยันไม่แข่งดอกเบี้ย-เน้นบริการแบบดีลิเวอรี่ พอร์ตลูกหนี้ NPL ต่ำกว่าคู่แข่งแค่ 3.9% คาดหวังเป้าใหญ่ในปี 2569 พอร์ตสินเชื่อโตถึง 50,000 ล้านบาท
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยว่า กลุ่มซิงเกอร์คาดว่ากระบวนการยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต.เพื่อนำบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ “รถทำเงิน” สินเชื่อเช่าซื้อเพื่อผลิตภัณฑ์ “ซิงเกอร์” และสินเชื่ออื่น เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย จะเกิดขึ้นภายในเดือน พ.ค.นี้ และคาดการณ์ว่าจะได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต.ภายในไตรมาส 3/2565 และสามารถเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหุ้นไทยได้ภายในปี 2565
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
“ตอนนี้เราทำงานอย่างหนัก โดยแยกงบการเงินระหว่างซิงเกอร์และเอสจีแคปปิตอลเสร็จหมดเรียบร้อยแล้ว เดิมเอสจีแคปปิตอลเป็นแค่หน่วยหนึ่งของบริษัท ซึ่งมีธุรกรรมสินเชื่อทะเบียนรถเริ่มตั้งแต่ปี 2557 และเติบโตกลายเป็นพอร์ตใหญ่ของบริษัท ทำให้การทำ spin-off หรือการเตรียมพร้อมก่อนไอพีโอค่อนข้างใช้เวลาแยกรายการเยอะ แต่เชื่อว่าผู้ตรวจสอบบัญชีภายในและงบการเงินไม่น่าจะมีปัญหาอยู่แล้ว จึงคาดหวังจะเทรดดิ้งภายในปีนี้ได้แน่นอน” นายกิตติพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้สำหรับภาพธุรกิจในปี 2565 กลุ่มซิงเกอร์ตั้งเป้ารายได้จะเติบโต 75% เมื่อเทียบจากช่วงกันปีก่อน โดยเติบโตจากภาพธุรกิจ 50% โดยเฉพาะธุรกิจดาวรุ่งอย่างบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ ที่กำลังจะไอพีโอในตลาดหุ้นไทย และอีก 25% ได้รับการเพิ่มทุน 10,000 ล้านบาท จากกลุ่มบริษัทยูซิตี้ในเครือบีทีเอสเมื่อช่วงปลายปี 2564
โดยปีนี้กลุ่มซิงเกอร์ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโต 38% หนุนปริมาณยอดสินเชื่อคงค้างรวม 15,500 ล้านบาท และมีเป้าหมายจะโตระดับ 20 เท่าในระยะเวลาอีก 2-3 ปีข้างหน้า
“เราเริ่มต้นปริมาณพอร์ตลูกหนี้จาก 2,000 ล้านบาท และปิดสิ้นปี 2564 เติบโตขึ้นกว่า 5 เท่า มียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 10,900 ล้านบาท และปิดไตรมาส 1/65 มียอดสินเชื่อคงค้างเกิน 12,000 ล้านบาท โดยเป้าหมายสิ้นปี 2565 จะแตะ 15,500 ล้านบาท” นายกิตติพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ภาพรวมกลุ่มซิงเกอร์ปัจจุบันมีตัวแทนขายตรง 4,000 รายทั่วประเทศ มีสาขาเครือข่ายซิงเกอร์แฟรนไชส์มากกว่า 4,600 สาขาทั่วประเทศ และมีเป้าหมายจะขยายเพิ่มเป็น 7,000 สาขาภายในสิ้นปี 2565 อีกทั้งได้ขยายช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มเติมให้ลูกค้าใช้บริการแล้วด้วย
นางสาวบุษบา กุลศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SG CAPITAL ผู้ให้บริการธุรกิจสินเชื่อภายใต้แบรนด์ “รถทำเงิน” สินเชื่อเช่าซื้อเพื่อผลิตภัณฑ์ “ซิงเกอร์” และสินเชื่ออื่น กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายพอร์ตสินเชื่อให้ได้ถึง 15,500 ล้านบาท เติบโต 38% จากสิ้นปี 2564 ที่มีพอร์ตสินเชื่อคงค้าง 10,900 ล้านบาท
และคาดหวังในปี 2569 พอร์ตสินเชื่อคงค้างจะเติบโตถึง 50,000 ล้านบาท และอีก 4 ปีข้างหน้าจะขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอย่างน้อยท็อป 5-10 โดยปีนี้มีแผนขยายทีมงานเป็น 350 คนจากเดิมมีอยู่ 250 คน และขยายหน่วยสาขาเป็น 100 สาขา จากที่มีอยู่ 65 สาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ปัจจุบันเอสจีแคปปิตอล มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อ 5 ประเภท ประกอบด้วย 1.สินเชื่อรถทำเงิน ซึ่งเป็นโปรดักต์ชูโรง คิดเป็น 55% ของพอร์ตสินเชื่อ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่สิ้นปีนี้รวม 5,500 ล้านบาท จากสิ้นปี 2564 ปล่อยสินเชื่อใหม่ไปแล้ว 3,963 ล้านบาท ซึ่งฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าธุรกิจ B2B ที่มีฟลีตรถใช้ดำเนินธุรกิจ
โดยให้บริการรถยนต์ทุกประเภทตั้งแต่รถ 4 ล้อเป็นต้นไป ทั้งที่มีและไม่มีทะเบียนรถ โดยมีพนักงานให้บริการให้คำปรึกษาช่วยเลือกโซลูชั่นที่เหมาะสมและมีประโยชน์แก่ลูกค้ามากที่สุด อนุมัติไว รู้ผลใน 1 ชั่วโมง
“ตอนนี้ภาพการแข่งขันในตลาดค่อนข้างรุนแรง รายใหญ่แข่งดอกเบี้ยหนัก แต่เราจะแข่งขันในเชิงการให้บริการมากกว่าคือเน้นบริการแบบดีลิเวอรี่ มีทีมประเมินราคาของเราเอง มีฐานข้อมูลรถที่บอกลูกค้าได้ว่าวงเงินที่ได้เท่าไร ทั้งนี้ลูกค้าบางรายจะได้ดอกเบี้ยต่ำกว่า โดยปัจจุบันเก็บดอกเบี้ย 0.6% ต่อเดือน อยู่ในระดับกลาง ๆ เมื่อเทียบคู่แข่ง โดยปล่อยวงเงินสูงสุดอยู่ที่ 30 ล้านบาท ถ้าเป็นลูกค้าประจำอาจมีโอกาสได้รับวงเงิน สูงถึง 50-60 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันอัตราการอนุมัติ (approved rate) ไม่ต่ำกว่า 80%” นางบุษบากล่าว
2.สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า คิดเป็น 41% ของพอร์ตสินเชื่อ ปีนี้จะปล่อยสินเชื่อใหม่ในกลุ่มนี้ 9,500 ล้านบาท
3.สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักร คิดเป็น 2% ของพอร์ตสินเชื่อ
4.สินเชื่อสวัสดิการ SG Capital สินเชื่อการร่วมทำสัญญากับบริษัท รวมหนี้ให้กับพนักงาน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ให้กับกลุ่มคนทำงาน โดยปีนี้ตั้งเป้าอนุมัติสินเชื่อเพิ่ม 200%
5.CLICK2GOLD บริการผ่อนทองผ่านไลน์ คิดเป็น 2% ของพอร์ตสินเชื่อ
สำหรับตัวเลขหนี้เสีย (NPL) พอร์ตโฟลิโอทั้งหมดของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 3.8-3.9% ซึ่งเชื่อมั่นว่าเรตนี้ไม่แย่กว่าบริษัทอื่นในตลาดแน่นอน เฉพาะธุรกิจสินเชื่อรถทำเงิน มีเอ็นพีแอลต่ำกว่า 1% โดยประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ปีนี้มีโอกาสลดลงแต่จะไม่ลดลงเร็วเหมือนช่วงแรก เพราะขนาดของพอร์ตใหญ่ขึ้น
สำหรับโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะภายในงานมันนี่เอ็กซ์โปกับสินเชื่อ “รถทำเงิน” รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.58% ต่อเดือน พร้อมพบกับการแนะนำผลิตภัณฑ์ และโปรโมชั่นอื่น ๆ จากที่ปรึกษาด้านสินเชื่อในกลุ่มซิงเกอร์ และ เอสจี แคปปิตอล โดยผู้ที่สนใจสามารถพบกันได้ที่งานมหกรรมการเงิน Money Expo 2022 ณ บูท SINGER & SG Capital โซน K.1 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2565 หรือติดตามรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.sgcapital.co.th
