TMI อวดกำไรไตรมาส 1/65 นิวไฮพุ่ง 585.50%

ไฟฟ้า
ภาพ Pixabay

บมจ.ธีระมงคล อุตสาหกรรม (TMI) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/65 กำไรนิวไฮ 8.29 ล้านบาท พุ่งขึ้น 585.50% รายได้โต 143.55 ล้านบาท ผลจากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวภาพและออกสินค้าใหม่ เตรียมจ่อคิว COD โรงไฟฟ้าชีวภาพแห่งที่ 3 ช่วงปลายไตรมาส 2 หนุนธุรกิจโรงไฟฟ้าโตต่อเนื่องปักธงปี’65 รายได้เติบโต 20%

วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 8.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.10 ล้านบาท หรือ 585.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

และมีรายได้จากการขายรวม 143.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.11 ล้านบาท หรือ 31.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการออกสินค้าใหม่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคและการขายไฟฟ้าให้กับภาครัฐ ประกอบกับมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพตามแผนกลยุทธ์ที่กำหนด

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 135.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.11 ล้านบาท หรือคิดเป็น 31.17% จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น สินค้าประหยัดพลังงาน และโคมไฟฆ่าเชื้อ UV-C ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ขณะที่รายได้จากการขายไฟฟ้าอยู่ที่ 8.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.96 ล้านบาท หรือ 89.28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในโครงการโรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดสมุทรสาคร และโรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดชุมพร ที่มีกำลังการผลิตรวม 2.4 เมกะวัตต์

ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่ผ่านมานั้น บริษัทมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่สามารถตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี รวมถึงการรับรู้รายได้จากการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง ที่สร้างรายได้และทำกำไรโตขึ้นต่อเนื่องสม่ำเสมอ โดยคาดว่าแนวโน้มการดำเนินธุรกิจไตรมาส 2 จะมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่องและเติบโตได้อย่างโดดเด่นจากอานิสงส์โรงไฟฟ้าเดิมและโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ช่วยหนุนให้รายได้บริษัทเติบโต 20 % ตามเป้าที่ตั้งไว้” นายธีระชัยกล่าว

การดำเนินธุรกิจหลังจากนี้ บริษัทวางเป้าหมายขยายการลงทุนเชิงรุกในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในอนาคต โดยเตรียมเดินเครื่องโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ ขนาดกำลังผลิต 3 เมกะวัตต์ ในอำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวภาพแห่งที่ 3 เพื่อผลิตไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ภายในเดือนมิถุนายนนี้

เมื่อรวมกับโรงไฟฟ้าเดิมและโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ทำให้โรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง มีกำลังการผลิตรวม 5.4 เมกะวัตต์ หนุนรายได้ให้เติบโต รวมถึงการเดินหน้าขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าด้วยการเปิดรับซื้อโรงไฟฟ้าชีวภาพเพิ่มเติม โดยวางเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 7 เมกกะวัตต์ในปี 2565 และคาดว่าจะมีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนรวมกำลังการผลิต 12 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566