ซิตี้แบงก์ ชี้เป้า 5 กองทุนเด่นด้านสุขภาพ สร้างผลตอบแทนระยะยาว

สุขภาพ ผู้สูงอายุ

ซิตี้แบงก์ แนะนำ 5 กองทุนเด่นด้านสุขภาพ ตอบโจทย์ยุคโลกาภิวัตน์ เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากเทรนด์สังคมรักสุขภาพ

วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ซิตี้แบงก์ ในฐานะสถาบันทางการเงินระดับโลก ผู้ให้บริการด้านบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) กล่าวว่า จากหลากหลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะหลายปีมานี้ ไม่ว่าจะเป็น วิกฤตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระตุ้นให้ผู้คนหันมาตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องการออกกำลังกาย รวมถึงการดูสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจกันมากขึ้น หรือแนวโน้มที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมประชากรสูงอายุ

โดยจากข้อมูลการเติบโตของประชากรโลกขององค์การสหประชาชาติ ปี 2562 พบว่าประชากรทั่วโลกที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ใช้จ่ายมากขึ้นถึง 3 เท่าในการดูแลสุขภาพ

รวมถึงคาดการณ์ว่าภายในปี 2593 หนึ่งในหกของคนในโลกจะมีอายุเกิน 65 ปี หรือคิดเป็น 16% ของประชากรโลก ซึ่งจะนำไปสู่การใช้จ่ายดูแลสุขภาพที่มากขึ้นตามลำดับ อีกทั้งอัตราการเกิดโรคต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของประชากร ตลอดจนการพัฒนาการทางด้านการแพทย์ต่าง ๆ ที่ทำให้สามารถรักษาโรคได้หลากหลายมากขึ้น ฯลฯ

ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนผลักดันให้เกิดการใช้จ่ายด้านสุขภาพเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจกลุ่มสุขภาพแบบก้าวกระโดด เห็นได้จากภาคธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อมที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโต รวมถึงการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ ซิตี้แบงก์ แนะนำ 5 กองทุนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อมให้นักลงทุนได้เลือกกระจายการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าว ประกอบด้วย

1.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นโกลบอลเฮลธ์แคร์ (SCB Global Health Care Equity Fund) กองทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ กองทุนหลัก Janus Global Life Sciences Fund โดยจะเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การดำเนินชีวิตโดยทั่วไปและศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหรือยกระดับคุณภาพชีวิต

เช่น การวิจัยและพัฒนาผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่เกี่ยวข้องสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลตัวเอง การแพทย์หรือเภสัชกรรม รวมไปถึงบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตหลักมาจากผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี การจดสิทธิบัตร เป็นต้น โดยจากข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนหลัก 3 ปี พบว่ากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 10.51% ต่อปี

2.กองทุนกรุงศรีโกลบอลเฮลธ์เเคร์อิควิตี้ปันผล (Krungsri Global Healthcare Equity Dividend Fund) กองทุนรวมที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศกองทุนหลัก JPMorgan Funds-Global Healthcare Fund เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมทางด้านสุขภาพทั่วโลก เช่น กลุ่มเภสัชกรรม กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ กลุ่มเทคโนโลยีการแพทย์ และกลุ่มการบริการด้านการแพทย์ โดยจากข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี พบว่ากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 6.44%

3.กองทุนกรุงศรีโกลบอลเฮลธ์แคร์อิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (Krungsri Global Healthcare Equity Hedged FX Fund) กองทุนรวมที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม JPMorgan Funds-Global Healthcare Fund, Class C (acc)-USD มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนหมวดอุตสาหกรรมทางด้านสุขภาพทั่วโลกเช่นเดียวกัน ซึ่งข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 9.82%

ทั้งนี้ ซิตี้โกลด์ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าลงทุนตรงผ่านกองทุนรวมในต่างประเทศในสกุลเงินดอลลาร์อีกด้วย เช่น

4.กองทุน JPM Global Healthcare Fund A (Acc) USD ซึ่งเป็นกองทุนหลักของกองทุนกรุงศรีที่กล่าวถึงข้างต้น โดยเป็นกองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ อาทิ เภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ บริการด้านสุขภาพ เทคโนโลยีทางการแพทย์ และบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี พบว่าสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 9.55%

5.กองทุน BGF World Healthscience Fund A2 USD กองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทกลุ่มบริษัทที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นในด้านการดูแลสุขภาพ เภสัชกรรม เทคโนโลยีทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ และการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ โดยข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 10%