ดีแทค ไตรเน็ต ออกหุ้นกู้เสนอขายนักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่กลางเดือน ก.ค.นี้

dtac ดีแทค

ดีแทค ไตรเน็ต (DTN) บริษัทย่อยของดีแทค เตรียมเสนอขายหุ้นกู้แก่ผู้ลงทุน “สถาบัน-รายใหญ่” ช่วง 11-12 ก.ค. และ 14 ก.ค.นี้ โชว์อันดับความน่าเชื่อถือบริษัทที่ระดับ “AA” เครดิตพินิจแนวโน้ม “ลบ” แจงขายผ่าน 3 แบงก์ “กรุงเทพ-ธนาคารกรุงศรี-กสิกรไทย”

วันที่ 7 มิถุนายน 2565 นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อขออนุญาตและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ซึ่งกำหนดมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุก ๆ 100,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 11-12 และวันที่ 14 กรกฎาคมนี้ สำหรับอายุหุ้นกู้ อัตราผลตอบแทนและรายละเอียดการจองซื้อจะเปิดเผยให้ทราบในภายหลัง

ทั้งนี้ DTN เป็นบริษัทย่อยของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ซึ่งดีแทค ถือหุ้น 99.99% และเป็นผู้ให้บริการภายใต้แบรนด์ ดีแทค ซึ่งมีฐานลูกค้าผู้ใช้บริการ ณ สิ้นปี พ.ศ. 2564 อยู่ประมาณ 19.6 ล้านเลขหมายทั่วประเทศไทย

นอกจากนี้ DTN ยังเป็นผู้ถือใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz 900 MHz 1800 MHz 2100 MHz และ 26 GHz รวมทั้งเปิดให้บริการ 4G TDD อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนคลื่น 2300 MHz (ให้บริการบนคลื่น NT หรือทีโอที เดิม) และได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่ 700 MHz ผ่านกระบวนการจัดสรรคลื่นความถี่โดย กสทช. จึงสามารถให้บริการได้ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นบริการเสียง บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศ บริการข้ามแดนอัตโนมัติ (International Roaming) บริการโทรศัพท์ทางไกล (International Direct Dialing หรือ IDD) และบริการเสริมอื่น ๆ

“แผนการควบรวมกิจการระหว่าง ดีแทคและทรูปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยบริษัทมุ่งหวังว่าการควบบริษัทจะเป็นการก้าวไปสู่การเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีและโทรคมนาคม เพื่อปรับโครงสร้างทางธุรกิจให้สามารถรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในตลาด เพื่อศักยภาพการแข่งขัน เพื่อพัฒนาธุรกิจด้านเทคโนโลยีเพื่อร่วมขับเครื่องยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 และเพื่อพัฒนาและต่อยอดธุรกิจภายใต้บริษัทใหม่” นายชารัดกล่าว

สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้เพื่อชำระคืนหนี้ เพื่อลงทุน และเพื่อใช้ในการหมุนเวียนธุรกิจ โดยผู้ลงทุนที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)