คอลัมน์ : เช็กกระแสหุ้น
หุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (6-10 มิ.ย.) แกว่งตัวค่อนข้างผันผวน โดย “ชาญชัย พันทาธนากิจ” ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ชี้ว่า ภาพตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความผันผวนจากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่เห็นถึงสัญญาณที่จะเร่งใช้นโยบายการเงินเชิงรุกเร็วขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อเร่งตัวและมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดเร็วขึ้นกว่าที่คาด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยในต่างประเทศอย่างการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (ECB) ที่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป ทำให้ภาพความกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลงมีน้ำหนักมากขึ้น จะเห็นได้จากการที่ธนาคารโลก (World Bank) หรือ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) มีการปรับคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลดลง
มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ข้างหน้านี้ (13-17 มิ.ย.) “ชาญชัย” ประเมินว่า ดัชนี SET จะยังคงผันผวนและแกว่งตัว sideway โดยให้กรอบดัชนี แนวต้านสำคัญไว้ที่ 1,665 จุด แนวรับสำคัญที่ 1,615-1,630 จุด ประเด็นสำคัญ คือ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 มิ.ย. ที่ต้องจับตาดูว่าจะมีการส่งสัญญาณออกมาอย่างไรในการประชุมครั้งนี้
“ส่วนหนึ่งจะต้องดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่รายงานออกมาในคืนวันศุกร์ด้วย โดยตลาดคาดว่าเงินเฟ้อน่าจะขยายตัว 8.2% ต่อปี (YOY) ทั้งนี้ หากรายงานออกมาขยายตัวมากกว่าที่คาด อาจทำให้ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อกลับมาอีก และส่งผลต่อการใช้นโยบายของเฟด ขณะที่หากออกมาต่ำกว่าที่คาดจะส่งผลให้ความกังวลเงินเฟ้อลดลง ซึ่งโดยภาพรวมตลาดหุ้นจะผันผวนไปจนกว่าจะรู้ผลการประชุมเฟด”
สำหรับหุ้นเด่นช่วงนี้จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นอย่าง หุ้นธนาคารพาณิชย์ แนะนำ BBL กับหุ้นประกันชีวิต แนะนำ BLA ส่วนอีกกลุ่มเป็นหุ้นกลุ่มเปิดเมือง แนะนำ CENTEL
