สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เผยสิ้นปี’60 เอกชนออกหุ้นกู้ปิดยอดเฉียด 8 แสนล้านบาท ชี้ธุรกิจ “การเงิน-แบงก์-อสังหาฯ” ตบเท้าระดมเงินมากสุด ส่วนบริษัทขนาดกลาง-เล็กออกหุ้นกู้ยากขึ้น สะดุดปมตั๋วบี/อีผิดนัด จำใจหันไปกู้แบงก์แทน ตั้งเป้าปี’61 ภาคเอกชนระดมทุนอีกไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้าน อานิสงส์กลุ่มรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิม-คืนหนี้ดีลซื้อกิจการ
นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภายในสิ้นปี 2560 คาดว่าจะมีบริษัทเอกชนระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ มูลค่ารวมอยู่ที่ 7.9 แสนล้านบาท หลังจากล่าสุด (15 ธ.ค. 60) มียอดระดมทุนแล้ว 7.89 แสนล้านบาท ซึ่งปี 2560 ที่ผ่านมา ถือว่ามีมูลค่าการระดมทุนที่น้อยกว่าปี 2559 ที่มีการออกตราสารหนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 812,988 ล้านบาท
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ทั้งนี้ การระดมทุนผ่านตราสารหนี้ของภาคเอกชนในช่วง 11 เดือนแรก ปี 2560 ที่ผ่านมา ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเข้ามาระดมทุนผ่านตราสารหนี้ระยะยาว (อายุ 1 ปีขึ้นไป) มูลค่ารวม 746,233 ล้านบาท จากจำนวน 146 บริษัท ซึ่งเติบโตจากช่วงเดียวกันปี 2559 ที่มีมูลค่ารวม 671,738 ล้านบาท จากจำนวน 147 บริษัท ซึ่งพบว่ามีการระดมทุนของเอกชนรายใหม่ประมาณ 21 บริษัท ลดลงจากปี 2559 ที่มีจำนวน 43 บริษัท โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการออกหุ้นกู้มากที่สุด ได้แก่ ธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ มูลค่ารวม 123,232 ล้านบาท, ธนาคารพาณิชย์ 122,283 ล้านบาท, อสังหาริมทรัพย์ 101,629 ล้านบาท, กลุ่มค้าปลีก มูลค่ารวม 89,288 ล้านบาท และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง มูลค่ารวม 78,626 ล้านบาท
“ปีนี้บริษัทเอกชนต่าง ๆ ยังระดมทุนผ่านตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ว่าบริษัทหน้าใหม่อาจเข้ามาระดมทุนน้อยลง เนื่องจากบริษัทขนาดกลางและเล็กออก (หุ้นกู้) ได้ยากลำบากขึ้น หลังจากมีกระแสผิดนัดชำระหนี้ของตั๋วบี/อี ซึ่งกดดันให้เทรนด์การออกหุ้นกู้ของบริษัทเล็ก ๆ ลดลงตามไปด้วย โดยบางส่วนก็หันไปใช้ช่องทางกู้แบงก์แทน” นางสาวอริยากล่าว
ส่วนทิศทางการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนในปี 2561 คาดว่าจะยังคงปรับตัวคึกคักต่อเนื่องจากปี 2560 โดยสมาคมคาดว่าจะมียอดระดมทุนผ่านหุ้นกู้ไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นมาจากการออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อชดเชยหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด (รีไฟแนนซ์) เฉลี่ยประมาณ 3-4 แสนล้านบาท การระดมทุนของผู้ออกหน้าใหม่ และการออกของกลุ่มแบงก์เพื่อนับเป็นเงินกองทุน รวมถึงอาจมีการออกของบริษัทขนาดใหญ่เพื่อนำไปรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินจากดีลการซื้อกิจการ อาทิ กรณีกลุ่ม บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ซื้อกิจการของบริษัทไซ่ง่อน เบียร์ แอลกอฮอล์ เบฟเวอเรจ ของรัฐบาลเวียดนาม ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านบาท
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริมเพาเวอร์ (BGRIM) กล่าวว่า บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้วงเงินไม่ต่ำกว่า 2,300 ล้านบาท เพื่อชดเชยหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนด โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้ออกหุ้นกู้วงเงินรวม 5,500 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3.7% ซึ่งหุ้นกู้ชุดใหม่คาดว่าจะออกในช่วงเดือน ต.ค. 2561 พร้อมให้ทริสเรทติ้งเป็นผู้จัดทำอันดับเครดิต โดยบริษัทต้องการออกเป็นหุ้นกู้ระยะยาว 3-7 ปี อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า 3.5%
นายปสันน์ สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส แผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) กล่าวว่า บริษัทเตรียมระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้วงเงินประมาณ 2 พันล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบอายุเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มออกได้ในช่วงเดือน ส.ค. 2561