คอลัมน์ เช้านี้ที่ซอยอารีย์
โดย พงศ์นคร โภชากรณ์ [email protected]
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
หลังจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ประกาศอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ออกมาอยู่ที่ร้อยละ 4.3 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ จากไตรมาสที่ 4 ปีก่อน สิ่งที่คอเศรษฐกิจทั้งหลายอยากเห็นในไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 คือ ความต่อเนื่องของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
จากข้อมูลเครื่องชี้เศรษฐกิจที่ออกมาของหลาย ๆ หน่วยงาน พบว่า เศรษฐกิจเดือนพฤศจิกายน ยังไม่แสดงอาการแผ่วให้เห็น ดังนั้น การสรุปว่าเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายของปีคงไม่ผิดแต่อย่างใด เราลองมาดูทีละด้าน
ด้านที่ 1 เศรษฐกิจในระดับมหภาค ยังขยายตัวในระดับดีกว่าเดือนก่อนทุกด้าน ในด้านอุปสงค์พบว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวได้สูงต่อเนื่องที่ร้อยละ 13.4 ต่อปี หากคำนวณดูปริมาณจะพบว่าขยายตัวสูงถึงร้อยละ 8.4 ต่อปี และเป็นการขยายตัวได้ดีในหลาย ๆ ตลาดหลัก
ส่วนการบริโภคสินค้าคงทน ได้แก่ รถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 34.9 และ 10.7 ต่อปี ตามลำดับ ปรับตัวดีขึ้นควบคู่กับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค นอกจากนั้นการลงทุนภาคเอกชน ที่ดูจากการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 12.5 ต่อปี ส่วนยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ขยายตัวได้ร้อยละ 6.4 ต่อปีสูงสุดในรอบหลายปี สะท้อนให้เห็นว่า ภาคเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทำหน้าที่ได้อย่างแข็งแกร่ง
ในขณะที่ภาครัฐก็ทำหน้าที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้อย่างดี โดยดูจากรายจ่ายรวมของรัฐบาลขยายตัวสูงถึงร้อยละ 42.4 ต่อปี หรือเป็นเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 2.5 แสนล้านบาท โดยเฉพาะรายจ่ายประจำที่เร่งเบิกจ่ายในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบเศรษฐกิจจะมีเงินไปขับเคลื่อนให้เดินหน้าต่อไปได้
ส่วนในด้านอุปทานของเศรษฐกิจ ที่ดูจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวสูงต่อเนื่องถึงร้อยละ 23.2 ต่อปี ซึ่งถือเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาตั้งแต่ต้นปี
ส่วนภาคอุตสาหกรรมที่ดูจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมยังคงปรับตัวดีขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า จะเห็นว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในระดับมหภาคถือว่าแข็งแกร่งทีเดียว
ด้านที่ 2 เศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ขยายตัวแข็งแกร่งสอดคล้องกับการขยายตัวในระดับมหภาค โดยการบริโภคสินค้าคงทน อันได้แก่ ยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่และยอดรถจักรยานยนต์ใหม่ขยายตัวสูงต่อเนื่องและเร่งตัวขึ้นเกือบทุกภูมิภาค สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาคในอนาคตที่ดีขึ้นหลายภูมิภาค ส่วนหนึ่งมาจากปริมาณการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีมูลค่ามากกว่า 6 พันล้านบาท ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวที่ดูจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนในแต่ละภูมิภาคยังคงมีความคึกคักตามปัจจัยฤดูกาล ในขณะที่การลงทุนในเครื่องมือเครื่องจักร อันได้แก่ ยอดรถปิกอัพจดทะเบียนใหม่และยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ก็ขยายตัวสูงในทุกภูมิภาคเช่นกัน เครื่องชี้ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า การฟื้นตัวที่แข็งแกร่งมากขึ้นเป็นลำดับของเศรษฐกิจระดับมหภาคเริ่มส่งผ่านลงไปยังระดับภูมิภาคและระดับจังหวัดมากขึ้น
จากข้อมูลเชิงประจักษ์และตัวเลขข้างต้น ทำให้มั่นใจว่านโยบายต่าง ๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำ เริ่มผลิดอกออกผลแล้ว ถือเป็นของขวัญส่งท้ายปี 2560 ได้เป็นอย่างดี และคาดว่าในปี 2561 การขยายตัวของเศรษฐกิจจะยังแข็งแกร่งต่อไป