บล.พาย มอง SET ฟื้นตัวช่วงสั้น ประเมินกรอบสัปดาห์นี้ 1,560-1,585 จุด

ภาพจาก Pixabay

บล.พาย ชี้ตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) สัปดาห์นี้มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง จากตลาดปรับลงมาสะท้อนความกังวลทั้งเงินเฟ้อและดอกเบี้ยไปพอสมควร ประเมินกรอบสัปดาห์นี้ 1,560 – 1,585 จุด แนะลงทุน SCGP, CBG

วันที่ 27 มิถุนายน 2565 นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) ประเมิน วันศุกร์ที่ผ่านตลาดหุ้น Dow Jones ปรับตัวขึ้นแรง 2.68% ตลาดผ่อนคลายกับภาวะดอกเบี้ยหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอ ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลาย ๆ อย่างปรับลง ช่วยคลายกังวลภาวะเงินเฟ้อ (น้ำมัน ถ่านหิน) โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศออกมาในวันศุกร์ได้แก่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนออกมาที่ 50 ต่ำกว่าตลาดประเมินที่ 50.2

ขณะเดียวกันได้ประกาศดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ 53.8 ต่ำกว่าตลาดประเมินว่าที่ 55.4 และต่ำสุดในรอบ 12 ปี อย่างไรก็ตามสหรัฐรายงานยอดขายบ้านมือหนึ่งที่ 6.96 แสนหลังคาเรือน ดีกว่าตลาดประเมินที่ 5.9 แสนหลังคาเรือน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT กลับมาปิดบวก 2.8% หลังมีรายงานออกมาว่ากำลังการผลิตบางส่วนจากลิเบียได้หายไป เนื่องจากมีการประท้วงทางการเมืองเพิ่มขึ้น ระยะสั้นเป็นบวกต่อกลุ่มน้ำมัน (PTTEP)

สำหรับสัปดาห์นี้ปัจจัยหลักจะเน้นไปที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่

(1) การรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CB) ในวันอังคาร Bloomberg ประเมินที่ 100

(2) การรายงานดัชนี PCE สำหรับเดือน พ.ค.ในคืนพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย Bloomberg คาดการณ์ที่ 6.4%YOY, 0.7%MOM และ Core PCE (ดัชนีราคาที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน) 4.8%YOY, 0.4%MOM หากประกาศออกมาแล้วต่ำกว่าตลาดคาดหมายไว้จะเป็นบวกกับบรรยากาศการลงทุน

(3) การรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในวันศุกร์ Bloomberg ประเมินที่ 54.7 สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐทั้งหมดประเมินว่าต่ำกว่าคาดจะดีกว่าเพราะหากเร่งแรงกว่าคาดตลาดจะกลับมากังวลกับเงินเฟ้อ

ส่วนปัจจัยภายในจะมีการรายงานการค้าระหว่างประเทศ Bloomberg คาดการณ์มูลค่าส่งออกจะขยายตัว 8.4%YOY และนำเข้าขยายตัว 17.9%YOY พร้อมประเมินดุลการค้าจะขาดดุล 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐมองเป็นลบต่อค่าเงินบาทที่ยังคงแนวโน้มอ่อนค่ารวมถึงมีโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะขายต่อเนื่อง

ขณะที่ทิศทาง SET INDEX สัปดาห์นี้ยังประเมินว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดปรับลงมาสะท้อนความกังวลทั้งเงินเฟ้อและดอกเบี้ยไปสมควร สะท้อนจากการปรับลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 และ 10 ปี ส่วนปัจจัยที่จะมีผลอย่างมีนัยสำคัญของตลาดจะอยู่ช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.ค. (เงินเฟ้อ CPI) เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังชอบหุ้นโรงไฟฟ้า (BGRIM GULF GPSC RATCH)

หนุนจากราคาแก๊สและ US Bond Yield ปรับลงรวมถึงหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะ (SCGP) นอกจากนี้ยังแนะค้าปลีก (BJC CPALL) รวมถึงท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ประเมินกรอบสัปดาห์นี้ 1,560 – 1,585 จุด

  • SCGP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 66.00 บาท) คาดกำไรปรับดีขึ้นตั้งแต่ 2Q22 เป็นต้นไป หนุนจากการคลายล็อกดาวน์ที่จะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ ราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้นในสภาวะต้นทุนที่สูงขึ้นและกำลังการผลิตใหม่ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากค่าขนส่งที่ลดลง
  • CBG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 125.00 บาท) คาดกำไรจะปรับดีขึ้น QOQ ทุก ๆ ไตรมาสของปี 2022 ด้วยแรงกระตุ้นจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 รายการ การเติบโตของรายได้การจัดจำหน่ายสุราที่แข็งแกร่ง การปรับราคาขายส่ง 1%-3% ปริมาณขายเครื่องดื่มชูกำลังที่พุ่งสูงขึ้นในไทย และยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นใน CLMV และจีน