บลจ.กรุงไทย เปิดไอพีโอกองทุนเวียดนาม 4-12 ก.ค.นี้

บลจ.กรุงไทย เปิดตัวกองทุนเวียดนาม KT-VIETNAM-A และ KT-VIETNAM-SSF คาดแนวโน้มการฟื้นตัวสูง จากปัจจัยเรื่องราคา-เศรษฐกิจที่ได้รับผลบวกจากการเปิดประเทศของจีน ขณะที่ผลกระทบจากสงครามรัสเซียค่อนข้างต่ำ เสนอขายครั้งแรก (IPO) 4-12 กรกฎาคม 2565

วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกที่มีความผันผวน นักลงทุนควรพิจารณาการลงทุนด้วยความรอบคอบและควรมองหาโอกาสการลงทุนในตลาดที่มีความผันผวนต่ำ มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และมีสินทรัพย์ที่ราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน

ซึ่งภายใต้ภาวะความผันผวนเช่นนี้ ตลาดหุ้นเวียดนามนับว่าเป็นตลาดที่ตอบโจทย์การลงทุนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องจากเศรษฐกิจที่กำลังเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับมีระดับราคาที่น่าสนใจ

ชวินดา หาญรัตนกูล
ชวินดา หาญรัตนกูล

“ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดอาเซียนที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากหลายปัจจัย ซึ่งหลักๆ มาจากการที่เวียดนามมีประชากรประมาณ 98 ล้านคน และส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน (ที่มา : populationpyramid.net) จึงทำให้ได้เปรียบจากโครงสร้างประชากร ประกอบกับการที่ตลาดหุ้นเวียดนามได้ปรับฐานจากความกังวลในระยะสั้นของนักลงทุน จากที่หน่วยงานภาครัฐได้เข้าตรวจสอบและจับกุมธุรกรรมที่ผิดกฎหมายเพื่อยกระดับมาตรการกำกับดูแลให้เข้มแข็งและโปร่งใสขึ้น

เหตุการณ์นี้จึงทำให้เกิดแรงเทขายออกมาอย่างรุนแรง แต่เมื่อพิจารณาโดยพื้นฐานจะพบว่าในปัจจุบันอยู่ในระดับราคาที่น่าลงทุนซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาว รวมถึงผลกระทบจากสงครามรัสเซียก็มีค่อนข้างจำกัดเพราะเวียดนามมีสัดส่วนการค้ากับรัสเซียค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ หากจีนเปิดประเทศเต็มที่อีกครั้ง ก็จะทำให้เวียดนามมีโอกาสได้รับประโยชน์สูงจากหลากหลายอุตสาหกรรม” นางชวินดากล่าว

ทั้งนี้ เพื่อเป็นทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนแก่นักลงทุน จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม โดยเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 4-12 กรกฎาคม 2565 ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทมเวียดนาม อิควิตี้ (ชนิดสะสมทรัพย์) (KT-VIETNAM-A) และกองทุนเปิดเคแทม เวียดนาม อิควิตี้ (ชนิดเพื่อการออม) (KT-VIETNAM-SSF)

สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยทั้งสองกองทุนเป็นการลงทุนแบบเชิงรุก เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาด เน้นลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศเวียดนาม ผ่านการลงทุนในตราสารทุน หน่วย CIS กองทุน ETF ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประเทศเวียดนามและต่างประเทศ เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

โดยกองทุนมีกระบวนการลงทุนแบบผสานรูปแบบการลงทุนทั้ง Top-down และ Bottom-up Approach ด้วยการคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง มุ่งหวังการเติบโตจากมูลค่าของเงินลงทุนในระยะยาว ทั้งยังมีการประเมินมูลค่าหุ้นตามปัจจัยพื้นฐาน โดยใช้วิธีการประเมินในรูปแบบต่าง ๆ