ชีวิตตูบก็สำคัญ นักสำรวจมุดถ้ำลึก 150 เมตรลงไปช่วยสุนัขติดอยู่ 2 เดือน

พบสุนัขแล้ว หลบอยู่ในถ้ำลึกถึง 152 เมตร หลังหายไปสองเดือน

วันที่ 13 สิงหาคม 2565 นิวส์วีก รายงานเรื่องราวประทับใจที่นักสำรวจลุยถ้ำลึกเกินร้อยเมตรลงไปช่วยสุนัขที่หลงเข้าไปอยู่ในนั้นนานกว่า 2 เดือน

เดิมที ริก เฮลีย์ วัย 66 ปี คุณครูและนักสำรวจถ้ำ พร้อมทีมงาน 30 คน ทำงานจัดทำแผนที่ถ้ำ ทางเหนือของเมืองเพอร์รีวิลล์ รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ทำให้มูลนิธิวิจัยถ้ำ หรือ Cave Research Foundation

นาทีทีมงานพบแอ็บบีอยู่ในถ้ำ

ถ้ำนี้เป็นส่วนหนึ่งของถ้ำเบโรม มัวร์ ถ้ำที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐมิสซูรี ความยาว 35 กิโลเมตร เฮลีย์จึงระดมทีมนักสำรวจถ้ำลงพื้นที่ 30 คน  

ต่อมาเฮลีย์ได้รับแจ้งมาจากทีมสำรวจว่า กำลังหานักสำรวจถ้ำคนหนึ่ง และผู้ช่วยหัวหน้าทีมกู้ภัยจากสำนักงานป้องกันเพลิงในท้องถิ่นอีกคน เพื่อไปช่วยสุนัขตัวหนึ่งที่ความลึก 500 ฟุต หรือราว 152.4 เมตร หลังจากผู้ปกครองและเด็กที่มาเยี่ยมชมถ้ำ แจ้งว่าเห็นสุนัขตัวหนึ่งหลงอยู่ลึกเข้าไปในถ้ำ

“ดีใจมากที่คุณอยู่ที่นี่ คุณจะช่วยเราไปร่วมภารกิจช่วยสุนัขจากในถ้ำได้” หัวหน้าทีมกู้ภัยกล่าวกับเฮลีย์

ต่อมา เฮลีย์ และเกอร์รี คีน ผู้เชี่ยวชาญการสำรวจถ้ำอีกคนได้ออกค้นหาสุนัข เพศเมีย ชื่อแอ็บบี้ อายุ 13 ปี พวกเขาได้รับการฝึกช่วยเหลือในถ้ำโดยเฉพาะ ต้องคลานและบีบผ่านทางเดินแคบ ๆ เพื่อไปหาสุนัข ภารกิจตามหาสุนัขใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมง

เฮลีย์ ซึ่งมีประสบการณ์สำรวจถ้ำมานาน 32 ปี แต่ยังไม่เคยช่วยสัตว์เลี้ยงหลงถ้ำแบบนี้มาก่อนเล่าถึงตอนพบสุนัขแอ็บบี้ว่า มันไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่มันอาจขาดสารอาหาร ตัวผอมหนังติดกระดูก ตามตัวของมันมีโคลนเลอะไปทั้งตัว และดูจากเล็บของมันแล้ว แสดงว่าไม่ได้เดินไปไหนมากนัก

“มันดูซึมและไม่กล้าเดิน ผมเลยนำเป้ออกมาปูให้ มันก็เดินเข้ามาหาและยอมให้ทีมนักสำรวจอุ้มใส่เป้หิ้วออกมาจากถ้ำ”

ก่อนหน้านี้ ตามการบอกเล่าของเฮลีย์ ทางเจ้าของสุนัขบอกว่า แอ็บบี้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน ยังไม่ชัดเจนว่าสุนัขตัวนี้ไปอยู่ในถ้ำได้อย่างไร มันอาจจะไล่ตามสัตว์อย่างหนูหรือแร็กคูน อีกทั้งตอนนั้นเกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในถ้ำ เลยพัดมันให้เข้าไปลึกกว่าเดิม

ภายในถ้ำมีน้ำและบางจุดมีปลา แต่ก็มืดมากจนทีมกู้ภัยสงสัยว่า สุนัขอายุมากแล้วอย่างแอ็บบี้อยู่รอดมาได้อย่างไร

เฮลีย์กล่าวว่า “มันเป็นความรู้สึกที่ดีที่ได้มีส่วนร่วมในภารกิจช่วยเหลือ” นอกจากนี้เขายังให้เครดิตกับผลงานของทีมนักสำรวจที่ทำงานร่วมกับมูลนิธิวิจัยถ้ำ

“สุนัขมีสภาพไม่ดีเลย แต่พอออกมาจากถ้ำได้แล้ว มันดูมีชีวิตชีวาขึ้น” เฮลีย์กล่าว และว่า เจ้าของสุนัขดูตะลึงไปเลยที่ได้เห็นเจ้าแอ็บบี้

….