มันเยอะมาก! นักวิทย์เพิ่งพบนกเพนกวินอาเดลี อยู่ในเกาะห่างไกล 1.5 ล้านตัว

AFP PHOTO

เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 2 มี.ค. คณะนักวิทยาศาสตร์เผยแพร่ผลงานการสำรวจค้นพบนกเพนกวินอาเดลี แถบคาบสมุทรแอนตาร์กติกา ขั้วโลกใต้ อยู่ตามหมู่เกาะแดนเจอร์ ไอส์แลนด์ ที่เป็นเกาะโขดหิน 9 เกาะ อย่างน่าฮือฮา เนื่องจากมีประชากรหนาแน่นกว่า 1.5 ล้านตัว จากเดิมที่วิตกกังวลกันว่าเพนกวินอาเดลีเป็นชนิดที่ลดประชากรลงเรื่อยๆ

หมู่เกาะนี้อยู่ใกล้กับทวีปอเมริกาใต้มากที่สุด และอยู่ในฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลเวดเดลล์ การค้นพบครั้งนี้ให้พื้นที่ดังกล่าวขึ้นแท่นเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเพนกวินอาเดลี ด้วยจำนวนมากเป็นอันดับ 3 หรือ 4 ของโลก

“นี่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างยิ่ง เป็นเป็นสถานการณ์จริงสำหรับเราว่าจะบริหารจัดการกับภูมิภาคนี้อย่างนี้อย่างไร” ฮีตเธอร์ ลีนช์ จากมหาวิทยาลัยสโตนี บรู๊ก ผู้ร่วมเขียนงานวิจัยชิ้นนี้กล่าว โดยผลงานชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ Scientific Reports

AFP PHOTO

ทั้งนี้ เพราะหากดูสถานการณ์ในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากคาบสมุทรแอนตาร์กติกาไปทางตะวันตกราว 160 ก.ม. จะพบว่าบริเวณ แอนตาร์กติกาตะวันตกนั้น เพนกวินอาเดลีลดประชากรลงไปถึงร้อยละ 70 ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้หิมะละลาย

“การค้นพบนี้เป็นข่าวดีว่ายังมีพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแอนตาร์กติกาที่ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างมั่นคงกว่าภาคตะวันตกภายใต้สภาพความเปลี่ยนแปลงทางอากาศ ดังนั้นประชากรของเพนกวินอาเดลีถึงได้มีจำนวนมากในภูมิภาคนี้และดูเหมือนว่ายังจะเหมาะเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับพวกมันไปพักใหญ่” ลีนช์กล่าว

สำหรับเพนกวินอาเดลีนเป็นหนึ่งใน 5 ชนิดของเพนกวินที่มีชีวิตอยู่ในโลก และอาศัยอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกา ฝั่งขั้วโลกใต้ มันเป็นเพนกวินขนาดกลาง มีความสูงเฉลี่ย 70 เซนติเมตร น้ำหนัก 6 กิโลกรัม มีลักษณะเด่นคือ รอบดวงตามีวงกลมสีขาวคล้ายวงแหวน และมีขนหางที่ยาวกว่าเพนกวินชนิดอื่นๆ

 

ส่วนหมู่เกาะแดนเจอร์ ที่ได้ชื่อว่าอันตราย เพราะด้วยเหตุผลตามภูมิศาสตร์และสภาพแวดล้อมของมัน ลีนช์อธิบายว่า พื้นที่ของหมู่เกาะนี้ปกคลุมด้วยน้ำแข็งหนาจากทะเลเกือบตลอดทั้งปี แม้แต่ในช่วงฤดูร้อน เป็นพื้นที่ที่ยากจะเข้าถึงสำหรับการสำรวจ
เกาะที่ว่าเข้าไปง่ายที่สุดแล้วชื่อ เอโรอีนา ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ยังเข้าไปได้ด้วยเรือเพียง 1 ครั้งต่อปีเท่านั้น

หมู่เกาะแดนเจอร์ หรือที่แปลว่า อันตรายนั้น ค้นพบโดยทีมนักวิจัยจากอเมริกา อังกฤษและฝรั่งเศส โดยอาศัยดาวเทียมแลนแซ็ตขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซา และสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติที่ขึ้นสู่วงโคจร และบันทึกข้อมูลพื้นผิวโลกมาเกือบ 4 ทศวรรษ)

ลีนช์และทีมงานนำภาพสำรวจจากดาวเทียมส่องด้วยระบบที่ใช้ความคมชัดสูง ตอนแรกที่เห็นเพนกวินหลายพันหลายหมื่นตัวนั้น ยังคิดว่าเป็นความผิดพลาดของภาพ เพราะหมู่เกาะดังกล่าวไม่เป็นที่รู้จักว่ามีเพนกวินอาศัยอยู่

ดังนั้นเพื่อความแน่ใจจึงใช้การสำรวจภาคพื้นดินตามแบบฉบับเดิมผสมผสานกับการใช้โดรนถ่ายรูป ซึ่งนอกจากจะพบเพนกวินอาเดลีแล้ว ยังพบรังของเพนกวินเจนทู (เป็นชนิดที่ใกล้ชิดกับเพนกวินอาเดลี) อีก 100 รัง และรังของเพนกวินชินสแตรป (เพนกวินหางแปรงชนิดหนึ่ง บริเวณใต้คางจะเป็นเส้นเล็ก ๆ สีดำคาดผ่านเหมือนสายรัดคางของหมวกนักขี่ม้า) อีก 27 รัง

“เราโชคดีมากๆ ที่ตอนเดินทางไปนั้นทะเลน้ำแข็งเปิดออกทำให้เราล่องเรือเข้าไปได้” ผู้นำทีมวิจัยกล่าว
พร้อมกล่าวเตือนในตอนท้ายว่า จำเป็นอย่างยิ่งต้องปกป้องพื้นที่นี้อย่างแข็งขัน ไม่ให้มีการประมงกร้ำกรายเข้าไปเลย !!

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์