สุดยอด! กินกิมจิ-ชอบฟังเพลง ปัจจัยหนุน “ชาวเกาหลี” อายุยืน

“ญี่ปุ่น” กับแถบประเทศเมดิเตอร์เรเนียน เรียกว่าเป็น “บลูโซน” หรือประเทศที่ประชากรอายุยืนที่สุดในโลก แต่กำลังจะเสียแชมป์ให้กับ “เกาหลีใต้” ซึ่งงานวิจัยชี้ว่าจะเป็นประเทศแรกของโลกที่ประชากรอายุเฉลี่ยสูงถึง 90 ปี ภายในปี 2030 เชื่อว่าเป็นผลจากการลงทุนพัฒนาด้านสาธารณสุข กับเคล็ดลับจากอาหารประจำชาติอย่าง “กิมจิ”

ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานอ้างข้อมูลจาก “Lancet” นิตยสารการแพทย์ นำโดยศาสตราจารย์ “มาจิด เอซซาตี” จากมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ที่ศึกษาข้อมูลอายุประชากรของกลุ่มประเทศ OECD หรือองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของ 35 ประเทศระบุว่า ประชากรโลกในปี 2030 จะมีอายุยืนมากขึ้น สอดคล้องกับคาดการณ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ประเมินว่า พฤติกรรมและความเป็นอยู่ของชาวโสมขาวจะทำให้ขึ้นเป็นแชมป์อายุยืน แทนหลายประเทศในกลุ่มบลูโซน โดยเฉพาะ “ญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นแชมป์มานานจากช่วงกลางทศวรรษ 1980 อายุเฉลี่ยของผู้หญิงเกาหลีใต้น้อยกว่า 75 ปี

ส่วนผู้ชายน้อยกว่า 65 ปี งานวิจัยประเมินว่าภายในปี 2030 อายุขัยเฉลี่ยของผู้หญิงจะสูงที่สุดในโลกอยู่ที่ 90-91 ปี ขณะที่ผู้ชายอยู่ที่ 84 ปี แม้ว่าผู้ชายยังชอบสังสรรค์ แต่อายุเฉลี่ยถือว่ามากกว่าหลายประเทศในกลุ่ม OECD

ขณะที่ “สหรัฐอเมริกา” กลับรั้งตำแหน่งสุดท้ายในการจัดอันดับอายุเฉลี่ยประชากร โดยคาดว่าชายชาวอเมริกันจะมีอายุคาดเฉลี่ย 80 ปี ส่วนหญิงอเมริกันอยู่ที่ 83 ปี เท่ากับเม็กซิโกและโครเอเชีย โดยสิ่งที่น่าตกใจ คือ สหรัฐ ประเทศประชาธิปไตยสุดโต่ง กลับขาดความเท่าเทียมทางด้านสาธารณสุข และเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม OECD ที่ไม่มีหลักประกันสุขภาพที่เท่าเทียม

รายงานวิจัยระบุถึงปัจจัยที่ทำให้อายุยืนว่า กลุ่มประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของคนอายุยืนที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อย่างที่เกาะซาร์ดิเนียของอิตาลี และเกาะอิคาเรียของกรีซ คนส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม และนิยมทาน “น้ำมันมะกอก” เป็นชีวิตจิตใจ ขณะที่ “ญี่ปุ่น” ที่ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ประชากรอายุยืนที่สุดของโลกหลายปีซ้อน เชื่อว่าเป็นผลมาจากวัฒนธรรมการกินหลักอย่าง “ปลาดิบ” ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่ “กิมจิ” อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักการล้มแชมป์ของเกาหลีใต้

โดยที่นิตยสาร “Journal ofMedicinal Food” เคยยกย่องให้ กิมจิ เป็นอาหารที่มีโพรไบโอติกสูง ช่วยให้ล้ำไส้แข็งแรง รวมทั้งการทานกิมจิเป็นประจำจะช่วยชะลอกระบวนการชราได้ ทั้งมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลด้วย

รวมทั้งวัฒนธรรมการกินของชาวโสมขาวเชื่อว่าในระหว่างรับประทานอาหาร ต้องทาน “ข้าว 1 คำ ผัก 1 คำ” ทั้งยังต้องมี “กิมจิ” ในทุกมื้ออาหาร จึงประเมินได้ว่าปัจจัยเรื่องการกินนั้นมีส่วนช่วยยืดอายุขัยของชาวเกาหลีใต้ได้

นอกจากนี้ การวิจัยยังพบว่าคนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่เป็น “โรคที่คิดว่าตัวเองป่วย” (hypochondriasis) เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหมกมุ่นในเรื่องสุขภาพของตัวเองมากเกินไป นำไปสู่การลงทุนของรัฐทั้งในด้านการศึกษาและสาธารณสุขที่เอื้อแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน โดยสถิติที่ผ่านมาพบว่า เกาหลีใต้สามารถจัดการกับปัญหาโรคความดันโลหิตสูงได้ดี ทั้งยังเป็นประเทศที่มีอัตราผู้ป่วยโรคอ้วนต่ำที่สุดในโลก

ศ.เอซซาตีระบุว่า “เป็นความน่าทึ่งของเกาหลีใต้ หนึ่งในประเทศที่ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว เป็นประเทศที่ขาดแคลนอย่างหนัก และไม่มีเทคโนโลยีใด ๆ แต่ปัจจุบันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างรอบด้าน กลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมระดับแนวหน้า รวมการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง เมื่อเทียบกับญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ที่ระบบสาธารณสุขนั้นเอื้อแต่หัวเมืองใหญ่ ๆ”

และในรายงานวิจัยยังระบุถึงพฤติกรรม “การฟังเพลง” ระหว่างคนเกาหลีและญี่ปุ่นที่แตกต่างกัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยเสริมของผลการศึกษาครั้งนี้ โดยกว่า 90% ของคนเกาหลีนิยมฟังเพลงระหว่างวัน ตอนขับรถ หรือช่วงเวลาว่าง ขณะที่คนญี่ปุ่นที่ชอบฟังเพลงมีต่ำกว่า 60% ซึ่งสะท้อนถึงสุขภาพจิตซึ่งมีส่วนเกี่ยวพันอย่างมากกับสุขภาพ