เปิดต้นทุนคนมีรถในต่างแดน รับภาระจ่ายค่าที่จอดรถ “เกินเวลา”เพียบ!

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ในความเป็นเมืองที่เจริญเติบโตขึ้นทุกแห่งทั่วโลกและความนิยมในการขับรถยนต์ที่มีเพิ่มขึ้น หนึ่งในภาระที่ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบ คือ ต้องเสียเงินค่าจอดรถสูงขึ้น โดยเฉพาะ “ค่าจอดเกินเวลา” ที่กลายเป็นเงินที่รวมกันแล้วในปีหนึ่งต้องเสียไปจำนวนมาก

โดยการสำรวจผู้ใช้รถยนต์ ให้ความเห็นว่าต้องการที่จอดรถที่มีราคาถูก มีที่จอดเพียงพอ ซึ่งสวนทางกับฝ่ายบริหารชุมชนเมืองที่ต้องการลดจำนวนยานพาหนะ และลดปัญหามลพิษ นำมาสู่การวางระเบียบการคิดค่าจอดเกินเวลา

นั่นทำให้มีการรวบรวม “เงิน” ที่ต้องหมดไปกับการจ่ายค่าจอดรถยนต์เกินเวลาในแต่ละปีขึ้นมา โดย INRIX บริษัทด้านเทคโนโลยีที่นำเสนอข้อมูลวัดผลการจราจรจากทั่วโลก ซึ่ง INRIX นอกจากบริการด้านข้อมูลยังเป็นเจ้าของแอปพลิเคชั่นบริการจองที่จอดรถที่ชื่อ ParkMe ซึ่งล่าสุดแอปฯดังกล่าวจับมือกับค่ายรถ บีเอ็มดับเบิ้ลยูในการติดตั้งบริการหา “จุดจอดรถ” ล่วงหน้า ซึ่งเป็นบริการเสริมให้กับรถบีเอ็มฯ ซีรีส์ 5

รายงานว่า สถิติผู้ขับขี่รถยนต์ที่สำรวจมา 18,000 คน จาก 30 เมือง ในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และเยอรมัน พบว่าต้องจ่ายเงินค่า “จอดรถเกินเวลา” เฉลี่ยต่อคนที่ 97 ดอลลาร์ต่อปี ขณะที่ค่าที่จอดรถปกติต่อปีเฉลี่ยจ่ายตามราคาตั๋วที่ ประมาณ 12 ดอลลาร์ต่อปี โดยมีรายงานว่าผู้ขับขี่รถยนต์ในเขตเมืองมีค่าใช้จ่ายจากการเสียเวลาและค่าพลังงาน(น้ำมัน) ในการขับวนหาที่จอดรถเฉลี่ย ปีละ 345 ดอลลาร์

ในสหราชอาณาจักร และเยอรมัน ดูจะเลวร้ายมากกว่า โดยในสหราชอาณาจักร ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องจ่ายเงินค่าจอดรถเกินเวลาราว 269 ดอลลาร์ (หรือ 209 ปอนด์) ต่อปี จากค่าจอดรถตามปกติเฉลี่ย 50 ดอลลาร์ (39 ปอนด์) ต่อปี ส่วนการคำนวณเงินที่เสียไปจากค่าเสียเวลาและค่าพลังงานอยู่ที่ 944 ดอลลาร์ (733 ปอนด์) ต่อปี

ส่วนเยอรมันมีรายงานว่าผู้ขับขี่รถยนต์ พยายามจะหลีกเลี่ยงจ่ายค่าปรับที่จอดรถเกินเวลา กระนั้นเมื่อรวมทั้งปีพบว่าต้องจ่ายค่าส่วนเกินต่อปีถึง 112 ดอลลาร์ (98 ยูโร) โดยมีการคำนวณว่าผู้ขับขี่รถยนต์ในเยอรมันต้องสูญเสียเวลาและค่าพลังงานในการหาที่จอดรถสูงถึง 1,023 ดอลลาร์ (896 ยูโร) ต่อปี

เรียกว่าต้นทุนค่าที่จอดรถยนต์ในต่างแดนนั้นไม่เบาจริงๆ

 

ประชาชาติฯออนไลน์แปลและเรียบเรียง