เจนีวา ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำใหม่ ทำสถิติสูงที่สุดในโลก

กรุงเจนีวา

สำนักข่าว ซีเอ็นบีซี รายงานว่า เขตปกครองจำนวน 2 ใน 3 ของกรุงเจนีวา ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ลงมติเห็นชอบแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 23 ฟรังก์สวิสต่อชั่วโมง หรือประมาณ 788 บาท ซึ่งจะทำให้แรงงานในกรุงเจนีวามีรายได้อย่างน้อย 3,700-4,000 ฟรังก์สวิส หรือประมาณ 1.29-1.37 แสนบาทต่อเดือน เมื่อทำงานเต็ม 41 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

โดย “เมาโร พอคเกีย” ที่ปรึกษาของเทศบาลกรุงเจนีวา เปิดเผยกับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ว่า อัตรค่าแรงใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ และจะทำให้ผู้ใช้แรงงานประมาณ 6% ในกรุงเจนีวาได้รับค่าแรงสูงขึ้น ด้าน Communauté genevoise d’action syndicale สหภาพแรงงานของเจนีวา กล่าวว่า การขึ้นค่าแรงนี้เป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งมีแรงงานได้ผลประโยชน์ถึง 3 หมื่นคน 

สำหรับอัตราใหม่นี้เทียบแล้วสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำในสหรัฐอเมริกา (228บาท/ชั่วโมง) ถึง 3 เท่า และสูงกว่าอังกฤษ (356บาท/ชั่วโมง) กว่า 2 เท่า

ทั้งนี้แผนขึ้นอัตราเงินเดือนขั้นต่ำเคยถูกปฏิเสธมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อปี 2554 และ 2557 แต่ในปีนี้ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิดได้ส่งผลกระทบกับประชาชนในเมืองซึ่งได้ชื่อว่า ค่าครองชีพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างหนัก จนมีรายงานจากสำนักข่าว เอเอฟพี ว่า ขณะนี้ทุกวันเสาร์ผู้คนนับพันต้องมาต่อคิวรับอาหารปันส่วนเมื่อร่วมกับมาตรการเว้นระยะห่างทำให้บางเวลาแถวยาวถึง 1.5 กิโลเมตร 

สอดคล้องกับ ผลสำรวจ ของบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล Mercer ที่จัดให้เจนีวาเป็นเมืองที่ค่าครองชีพสูงอันกับ 9 ของโลก โดยอันดับ 1 คือ ฮ่องกง และอันดับ 10 คือ เซี่ยงไฮ้ ส่วนกรุงเทพฯ อยู่ในอับดับที่ 35  

“มิเชล แชเรท” ประธานของ Groupement transfrontalier europeen องค์กรตัวแทนของแรงงานที่ทำงานในสวิตเซอร์แลนด์-ฝรั่งเศส กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ได้พิสูจน์ว่า ด้วยอัตราค่าแรงขั้นต่ำเดิมนั้น ชาวสวิตเซอร์แลนด์บางกลุ่มไม่สามารถดำรงชีวิตในกรุงเจนีวาได้ 

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ สวิตเซอร์แลนด์ แล้วรายได้ต่อเดือนประมาณ 3,700-4,000 ฟรังก์สวิสนี้ ถือว่าอยู่แค่ระดับคาบเส้นแบ่งความยากจน ซึ่งการประเมินเมื่อปี 2561 อยู่ที่ 3,968 ฟรังก์สวิส