เปิดใจ หนุ่มฮีโร่ฝ่ากองเพลิง ช่วยชีวิตเด็กไว้ได้ถึง 5 คน คนสุดท้ายต้องฝ่ากองเพลิงและอุ้มกระโดดหนีไฟลงมาบาดเจ็บ ผู้คนซึ้งใจแห่บริจาคเงินรักษา พุ่งทะลุ 9 ล้านบาท
วันที่ 23 กรกฎาคม 2565 วอชิงตันโพสต์ รายงานเปิดใจฮีโร่ช่วยชีวิตเด็กจากกองเพลิงถึง 5 คน จนตนเองบาดเจ็บต้องไปนอนโรงพยาบาล ที่เมืองลาฟาแยตต์ รัฐอินเดียนา สหรัฐอเมริกา
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
นิโคลัส บอสติก หนุ่มฮีโร่คนดังกล่าว วัย 25 ปี เล่าว่า ตอนนั้นเขากำลังขับรถไปเติมน้ำมันประมาณเที่ยงคืนและเห็นเปลวไฟลุกโชนมาจากหน้าต่างชั้น 2 จึงเหยียบเบรกแล้วกลับรถและบึ่งไปทันที แต่นึกขึ้นมาได้ว่าทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ที่บ้าน ห่างออกไป 3-4 กิโลเมตร จึงโทร.แจ้งหมายเลขฉุกเฉินไม่ได้
ชายหนุ่มจึงกระโดดออกจากรถและพยายามโบกเรียกรถอีกคันหนึ่งให้มาช่วย แต่คนขับไม่หยุด ตอนนั้นไม่แน่ใจว่ามีคนติดอยูในบ้านหรือไม่ จึงวิ่งไปหลังบ้าน ประตูไม่ได้ล็อกจึงรีบเข้าไปในบ้านที่เต็มไปด้วยควันไฟและตะโกนถามว่า “มีใครอยู่ไหม ออกมาเร็ว ไฟไหม้” แต่ไม่มีเสียงตอบ
ฝ่าเพลิงช่วย 6 ขวบติดอยู่ในบ้าน
ขณะที่กำลังจะออกจากบ้าน แต่เหลือบไปเห็นวัยรุ่นคนหนึ่งกับเด็ก ๆ ติดอยู่ที่หัวบันได
วัยรุ่นคนนั้นคือ เซียออนนา บาร์เรตต์ อายุ 18 ปี ดูแลน้อง ๆ 3 คน และเพื่อนน้องอีก 1 คน ระหว่างที่พ่อแม่ไปเล่นปาเป้า พี่สาวคนโตได้กลิ่นไหม้และปลุกน้อง ๆ ให้รีบออกจากบ้านตอนที่บอสติกเข้ามาทางหลังบ้านพอดี
บอสติกจึงรีบไปพาทุกคนลงมา สาวเซียออนนาบอกว่า ยังมีน้องเล็กอีกคนหนึ่งยังอยู่ในบ้าน ชายหนุ่มจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน ดูทั้งใต้เตียงและตู้เสื้อผ้า แต่ไม่พบ แต่เมื่อวิ่งไปที่บันไดก็ได้ยินเสียงร้องไห้เบา ๆ
จังหวะนั้นบันไดคละคลุ้งไปด้วยควันหนาทึบและร้อนจนทนไม่ได้ เขาลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะพรวดพราดลงบันได ในใจคิดว่าไม่อยากตายที่นี่ จึงกลั้นหายใจและตามหาเจ้าของเสียงร้องไห้ ท่ามกลางความมืด จนกระทั่งเจอตัว ด.ญ.เคย์ลานิ หรือ เบบี้ เค วัย 6 ขวบ
บอสติกรุดเข้าอุ้มเด็กไว้ในแขนข้างหนึ่งเหมือนลูกฟุตบอลแล้วขึ้นบันได ชายหนุ่มบอกว่าตอนนั้นร้อนมากและมีแต่ควัน หายใจแสบจมูก มองเห็นแสงสว่างลำหนึ่งลอดเข้ามาจากห้องชั้นบน จึงขึ้นไปและพังหน้าต่างด้วยกำปั้นมือขวาเพราะมือซ้ายต้องอุ้มเด็กและกระโดดออกจากชั้นบนลงมาที่พื้น โดยดิ่งตัวด้านขวากระแทกพื้นเพื่อกันไม่ให้เด็กเป็นอันตราย
บอสติกช่วยเด็ก ๆ 5 คนไว้ได้ภายในเวลาไม่ถึง 15 นาที
ฮีโร่สุดเขิน-ผมเป็นแค่คนธรรมดา
พ.ท.แรนดี เชียเรอร์ สถานีตำรวจลาฟาแยตต์ กล่าวชมเชยว่า ความอารีของบอสติกไร้ความเห็นแก่ตัว เป็นแรงบันดาลใจ การตัดสินใจลงบันไดไปช่วยชีวิตหนูน้อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ คิดว่าเป็นไปไม่ได้และรู้อยู่แก่ใจว่าเสี่ยงถึงชีวิต ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่า กล้าหาญและฮีโร่
ด้านบอสติก ซึ่งทำงานเป็นพนักงานอบพิซซ่าร้านปาป้า จอห์น ให้สัมภาษณ์ด้วยความเขิน หลังจากผู้คนชื่นชมว่า เขาเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น ถึงจะบาดเจ็บ แต่คุ้มค่ามาก
ส่วนเดวิดและเทียร่า บาร์เรตต์ รีบกลับบ้านทันทีที่เซียออนนาโทรศัพท์แจ้งข่าวร้ายว่าไฟไหม้บ้าน
บ้านอยู่ในกองเพลิงและเบบี้ เค อยู่ในรถพยาบาลและบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนบอสติกถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะสูดควันและถูกไฟคลอกระดับ 1 ที่สะโพก ข้อเท้าขวาและแขนขวา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุเพราะเพื่อนบ้านโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉิน
เดวิดกล่าวว่า ตอนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึง เซียออนนา เชย์ลีย์ อายุ 13 ปี คาเลีย อายุ 1 ขวบ และ ลิเวียน ไนฟ์ลีย์ อายุ 13 ปี เพื่อนของเชย์ลีย์อยู่นอกบ้านและปลอดภัยดี แม้ตัวสั่นเทา แต่ไม่บาดเจ็บอะไร
หัวหน้าครอบครัวรู้สึกเป็นหนี้ชีวิตบอสติกและยกย่องว่าเป็นฮีโร่ตัวจริง ลูกสาวคนโตเป็นฮีโร่เช่นกันที่ปลุกน้อง ๆ และไม่อยากจะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าชายหนุ่มไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย
บ้านไหม้หมดยกเว้นคำว่า LOVE
เดวินเป็นผู้ช่วยครูใหญ่โรงเรียนมัธยมต้นเทคัมเซห์ในเมืองลาฟาแยตต์และเช่าบ้านหลังนี้ประมาณ 6 ปีแล้ว
ส่วนหน่วยดับเพลิงลาฟาแยตต์กำลังสืบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้ แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่าต้นเพลิงอาจจะเกิดที่ระเบียงหน้าบ้าน
เดวิดกล่าวว่าไฟลามเร็วมาก “เราหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง” ไม่เหลือทรัพย์สินอะไรเลย ยกเว้น ตัวอักษรคำว่า “LOVE” ที่ติดอยู่บนผนังห้องนั่งเล่นที่ไม่ไหม้
ด้านวาเลรี โฮลด์แมน เปิดเฟซบุ๊กระดมทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่บอสติกรักษาตัวในโรงพยาบาล 3 วันและค่ารักษาอื่น ๆ หลานสาวของโฮลด์แมนนอนค้างคืนที่บ้านหลังนั้น พร้อมกล่าวว่าขนลุกเมื่อนึกถึงว่าอะไรจะเกิดขึ้น การช่วยเหลือบอสติกเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พอจะทำได้
ยอดเงินบริจาคทะลุ 9 ล้านบาท
ขณะนี้มียอดเงินบริจาคกว่า 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,280,000 บาท ไม่รวมยอดเงินจาก GoFundMe เพื่อบอสติกอีกกว่า 220,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8,050,000 บาท
ส่วนเฟธ โฮลด์แมน โบฮานนอน ยายของลิเวียน กล่าวว่าเมื่อพบบอสติก ถึงกับร้องไห้ (ด้วยความซาบซึ้ง) ประมาณ 5 นาที และว่า “เขาเป็นฮีโร่ของเรา”
บอสติกกล่าวว่ายินดีช่วยเหลือชุมชน สิ่งสุดท้ายที่ตนคิดในขณะนั้น คือ ค่ารักษาพยาบาลที่สูงและขอบคุณที่ทุกคนมีน้ำใจและมอบให้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ ดีใจมากที่เด็ก ๆ ปลอดภัย
วันที่ 17 ก.ค. บอสติกพบครอบครัวบาร์เรตต์อย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยเดวิดเชิญให้ไปร่วมพิธีที่โบสถ์
ฮีโร่กล่าวว่ารู้สึกประหม่าและน้ำตาไหล เขาเพียงทำในสิ่งที่ถูกต้องในคืนนั้นและรู้ว่าทุกคนไม่เป็นไรก็อยากจะร้องไห้
เดวิดก็รู้สึกเช่นเดียวกันและกล่าวว่า “นิกเป็นมากกว่าเพื่อน ตอนนี้ เขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา”
….