ชัชชาติ ร่วมพิธีสวดอภิธรรมพนักงานสวนสาธารณะ กทม.

ชัชชาติ ร่วมพิธีสวดอภิธรรมพนักงานสวนสาธารณะ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่

วันที่ 14 สิงหาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีสวดอภิธรรม นายวิโรจน์ นุ่มปั้น ลูกจ้างประจำ ตำแหน่งพนักงานสวนสาธารณะ บ2 ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ เขตคลองสามวา ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งชนขณะกำลังตัดหญ้า เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่

โดยมี นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักงานเขตคลองสามวา เขตมีนบุรี ข้าราชการ ลูกจ้างกรุงเทพมหานคร และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ศาลา 3 วัดแสนสุข ถนนสุวินทวงศ์ เขตมีนบุรี


สำหรับนายวิโรจน์ นุ่มปั้น ลูกจ้างประจำ ตำแหน่ง พนักงานสวนสาธารณะ บ2 ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ ปัจจุบันอายุ 58 ปี 10 เดือน 12 วัน บรรจุครั้งแรก ณ สำนักงานเขตมีนบุรี เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2531 และได้ตัดโอนมายังสำนักเขตคลองสามวา ตอนจัดตั้งสำนักงานเขต เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2540 รวมอายุราชการ 34 ปี และจะเกษียณอายุในปี 2566 นี้ ตลอดการปฏิบัติหน้าที่ของนายวิโรจน์ เป็นบุคคลที่มีขยันขันแข็ง ตั้งใจทำงานอย่างเต็มกำลัง นับว่าเป็นบุคคลที่ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง ที่ตั้งใจปฏิบัติงานเพื่อความสะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่เขตคลองสามวา ทั้งนี้ กำหนดพิธีฌาปนกิจในวันที่ 16 ส.ค. 65 เวลา 17.00 น.

ด้านการเยียวยาสำนักงานเขตคลองสามวาได้ประสานงานเป็นการเบื้องต้นรวบรวมสรุป ดังนี้ เงินบำเหน็จพิเศษ (เสียชีวิตจากการปฏิบัติงาน 30 เท่า เป็นเงิน 630,300 บาท เงินบำเหน็จปกติ (34 ปี*21,010 บาท) เป็นเงิน 714,340 บาท เงินการฌาปนกิจกรุงเทพมหานคร (ของฝ่ายสวัสดิการ) เป็นเงิน 360,300 บาท เงินช่วยเหลือค่าทำศพจากสหกรณ์ กทม. เป็นเงิน 10,000 บาท เงินประกันอุบัติเหตุกลุ่ม มูลนิธิพุทธรังษี

โดยพระเถระชินติ้ง เป็นเงิน 151,000 บาท กองทุนผู้ประสบภัยโดยกระทรวงยุติธรรม เป็นเงิน 100,000 บาท และเงินชดเชยจากพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.) จากบริษัท เทเวศร์ประกันภัย จำกัด 500,000 บาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,475,940 บาท สำหรับเงินช่วยเหลือจากคู่กรณีอยู่ระหว่างประสานงานและหารือกับครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะทำการประสานการทำงานใกล้ชิดมากขึ้นและจะเพิ่มความเข้มงวดและกำชับในมาตรการความปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะเน้นย้ำความสำคัญในการใส่เสื้อสะท้อนแสงขณะกำลังปฎิบัติหน้าที่ทุกครั้ง และจัดให้มีการวางกรวยขณะปฎิบัติงานหากในกรณีที่ต้องปฎิบัติงานต้องใช้ผิวการจราจร รวมทั้งสนับสนุนรถสายตรวจฝ่ายเทศกิจตรวจตราในบริเวณปฏิบัติงานต่อไป