ศักดิ์สยามต้อนรับทูตเมียนมา “อู ชิ ซเว” ลุย MOU ขนส่งอนุภาคลุ่มน้ำโขง

ศักดิ์สยามให้นายอูชิซเว เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทยเข้าพบ ร่วมหารือการพัฒนาความร่วมมือด้านคมนาคมขนส่ง เชื่อมโยงการเดินทาง เพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนระหว่าง 2 ประเทศ

วันที่ 17 สิงหาคม 2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้นายอูชิซเว (H.E. Mr. U Chit Swe) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทยเข้าพบ เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย และหารือเกี่ยวกับการพัฒนาความร่วมมือด้านคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศไทยกับสหภาพเมียนมา

ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้กล่าวถึงการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานของไทยตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและให้บริการคมนาคมขนส่ง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้าน

โดยกระทรวงคมนาคมได้รับนโยบายดังกล่าวมาขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และปลอดภัย เชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ

สำหรับความร่วมมือด้านการคมนาคมระหว่างประเทศไทยและสหภาพเมียนมาได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ในการส่งเสริมด้านการค้าการลงทุนผ่านความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ระหว่าง 2 ประเทศและภูมิภาคอาเซียน

โดยการประชุมในครั้งนี้ได้ร่วมหารือในประเด็นด้านความร่วมมือระหว่างกันทุกมิติครอบคลุม ทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ ได้แก่ การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจในการเริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Initial Implementation of Cross-Border Transport Facilitation Agreement : IICBTA) ในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างไทย-เมียนมา การพัฒนาเส้นทางท่าเรือและเส้นทางรถไฟ การพัฒนาความเชื่อมโยงด้านการบินระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ

ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมแสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมมีมติในการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง 2 ฝ่าย เพื่อเดินหน้าผลักดันความร่วมมือกับสหภาพเมียนมาในมิติด้านการคมนาคมขนส่งการค้าการลงทุน และการสัญจรระหว่างกันให้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป