บิ๊กโจ๊ก คาดหลัง 9 ก.ย. ทราบผลตรวจจิตเวช อดีตตำรวจหญิง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.)

บิ๊กโจ๊กเผย สำนวนคดี ส.ต.ท.หญิง ทำร้ายทารุณทหารหญิงรับใช้ใกล้สมบูรณ์ รอผลตรวจจิตเวช-แจ้งข้อหาบุคคลเกี่ยวข้องเพิ่มอีก 2 คน

วันที่ 2 กันยายน 2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าคดี ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม ทารุณกรรมทหารรับใช้ ว่าสำนวนการสอบสวนใกล้จะสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงผลตรวจจิตเวช จากแพทย์โรงพยาบาลราชบุรี ที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่ามีอาการป่วยทางจิต

คาดว่าน่าจะได้รับผลตรวจหลังจากวันที่ 9 กันยายนนี้ เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการทางการแพทย์ ซึ่งหากได้รับผลตรวจทางการแพทย์ พนักงานสอบสวนจะจัดส่งสำนวนการสอบสวนในการสั่งฟ้อง ซึ่งหากพบว่ามีปัญหาทางจิตจริง ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ต้องหาจะไม่ถูกดำเนินคดี แต่จะส่งตัวไปบำบัดก่อนกลับมารับโทษต่อไป

ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเพื่อนผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 2 คน คืออดีตตำรวจคนสนิทและเพื่อน ร่วมกันทำร้ายร่างกายสาหัส แต่ยังไม่มีหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งกำลังรอให้ผู้เสียหายให้ข้อมูล ว่าถูกทำร้ายไปทั้งหมดกี่ครั้ง เพื่อประกอบสำนวนแจ้งข้อหาต่างกรรมต่างวาระต่อไป

ในส่วนของตำรวจหญิงพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา 2 ข้อหาคือ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นอันตรายสาหัส และร่วมกันค้ามนุษย์ อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 8-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต

สำหรับประเด็นเรื่องการโยกย้ายตำแหน่งงานของตำรวจหญิงเป็นไปอย่างไม่สมเหตุสมผลนั้น ในส่วนนี้ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบด้วย เพราะรับผิดชอบเพียงคดีอาญา โดย ผบ.ตร.สั่งกำชับให้ดูแลอย่างใกล้ชิดและดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา รวดเร็ว และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และมองว่าคดีนี้ไม่ยุ่งยากอะไร และไม่ได้รู้สึกกังวลหรือหนักใจ ใครผิดก็ว่าไปตามผิด

ส่วนกรณีของ ส.ว.ที่มีการพูดพาดพิงถึง จะมีการเรียกมาสอบหรือไม่นั้น เห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องภายในต้นสังกัด และเชื่อว่าผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยก็ต้องยืนอยู่บนหลักของความถูกต้องอยู่แล้ว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง