บิ๊กตร.ถกกลุ่มบ.บิทคอยน์ สกัดจุดอ่อนปปง.ไร้กฎหมายดูแล พบ 90% ตุ๋นผ่านเงินดิจิทัล

เมื่อเวลา10.40 น. วันที่ 29 มกราคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศป.ฉปทน.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) นายศิวัช ชาวบางงาม ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) นายธานี โอฬารรัตน์มณี ผู้อำนวยการกองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมธุรกิจการค้า นายเดวิด บาร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัทบิทคอยน์ จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือหามาตรการป้องกัน ระงับยับยั้งการทำธุรกรรมของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในขณะนี้

พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ กล่าวก่อนการประชุมว่า วันนี้มีวาระการประชุม 4-5 เรื่องเกี่ยวกับมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เร่งด่วนไม่ให้ส่งผลกระทบลุกลามบานปลาย เนื่องจากตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มแก๊งคอลเซนเตอร์ในปัจจุปันพบว่ามีการเปลี่ยนพฤติกรรมการหลอกลวงผู้เสียหายและนำเงินไหลเข้าสู่กลุ่มบิตคอยน์มากขึ้นโดยไม่ทราบว่าเงินดังกล่าวมีปลายทางที่ประเทศใด สร้างความเสียหายกับประเทศจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อให้ทราบขั้นตอนต่างๆ และวางมาตรการป้องกันตลอดจนช่วยเหลือประชาชนผู้เสียหาย

ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานขอข้อมูลบัญชีบิตคอยน์จากกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลหรือบิตคอยน์ เพื่อใช้ในการสืบสวน หลังพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่าร้อยละ 90 มีการนำเงินของผู้เสียหายเข้าสู่ระบบบิตคอยน์มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบเส้นทางการเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดแล้ว ยืนยันตำรวจติดตามและรู้ทันเทคโนโลยีของกลุ่มคนร้าย แม้ว่าการทำธุรกรรมผ่านระบบบิทคอยน์จะไม่สามารถเอาผิดตามกฎหมาย ปปง. ได้ เนื่องจากบิตคอยน์ยังไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ปปง.ต้องรอให้เกิดการฟอกเงินเกิดขึ้นจึงจะสามารถเอาผิดได้โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างกฎหมาย เพื่อให้บิตคอยน์เข้าสู่ระบบเหมือนสถาบันการเงินทเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้

สำหรับบริษัทที่เชิญมาร่วมประชุมทั้งหมดในวันนี้ 4-5 แห่ง กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบแล้วว่ามีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยแต่ละบริษัทก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี

 


ที่มา มติชนออนไลน์