มูลนิธิ รพ.พระมงกุฎฯขอโทษ “ทิชา” ออกใบเสร็จพลาดจากงานธุรการ ยันทุกบาทเข้าโครงการก้าว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 มกราคม ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พล.ต.นิมิตร์ สะโมทาน ผอ.รพ.พระมงกุฎเกล้า ในฐานะประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และ พล.ต.พีระพล ปกป้อง เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แถลงข่าวการออกใบเสร็จรับเงินบริจาคโครงการ “ก้าวคนละก้าว” เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ

พล.ต.นิมิตร์กล่าวว่า จากข่าวในสังคมออนไลน์ที่คุณทิชา ณ นคร บริจาคเงินมา 15,000 บาท แต่ได้รับใบเสร็จผิดพลาดเป็น 500 บาทนั้น มีการตรวจสอบแล้วว่าผิดพลาดจริง จึงติดต่อคุณทิชาจะนำใบเสร็จที่ถูกต้องไปให้ แต่คุณทิชาไม่สะดวกจึงส่งทางไปรษณีย์แทน และต้องขออภัยคุณทิชาด้วย

“มูลนิธิ รพ.พระมงกุฎเกล้าดำเนินการด้วยความโปร่งใส ขอให้ตัดกรณีทุจริตออกได้เลย ไม่มีเด็ดขาด เงินทุกบาทเข้าบัญชีธนาคารทั้งหมด ส่วนการออกใบเสร็จเป็นขั้นตอนหลังการบริจาค โดยมีผู้บริจาคเข้ามาเป็นจำนวนมาก และมูลนิธิต้องออกใบเสร็จกว่าแสนใบ ใน 4 เดือนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำงานค่อนข้างหนัก และได้รับแจ้งข้อผิดพลาดเพียง 1 ราย ให้สบายใจได้เรื่องความโปร่งใส โดยยอดบริจาคล่าสุดเช้านี้ 1,345 ล้านบาทเศษ

“โครงการนี้ยังไม่ปิด สามารถบริจาคเข้ามาได้ โดยจากนี้เราจะประชุมผู้บริหาร 11 รพ. เพื่อจัดสรรเงิน โดยจะใช้ยอดเงินวันที่ 31 ม.ค. 2561 ในการจัดสรร และจะมีการมอบเงิน คาดว่าจะจัดงานที่สวนรถไฟ มีมินิอีเวนต์ มีการวิ่งและมอบเงิน เบื้องต้นคือวันที่ 25 ก.พ.” พล.ต.นิมิตร์กล่าว

ส่วนการจัดสรรเงินรับบริจาคนั้น พล.ต.นิมิตร์กล่าวว่า คุณตูนและโครงการก้าวได้กำหนดแนวทางการจัดสรรเงินไว้แล้ว โดยประมาณจากจำนวนเตียงของแต่ละโรงพยาบาลและประเมินเพิ่มเติมตามขนาดโรงพยาบาล โดย รพ.พระมงกุฎเกล้าอาจได้รับจัดสรรมากกว่าเล็กน้อย ราว 2-3% แต่ต้องพูดคุยกันอีกที เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ ต้องรับแรงเสียดทาน รับความดีชอบ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำโอที 4 เดือน โดยเงินที่ได้รับจัดสรรมาในตึกใหม่ของ รพ.พระมงกุฎเกล้ามีความต้องการในเครื่องมือทางการแพทย์จำนวนมาก แต่จะจัดสรรให้ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินที่เสนองบเครื่องมือมา 1.1 พันล้านบาท โครงการนี้เข้ามาทำให้เสร็จเร็วขึ้น ยืนยันว่าทุกโรงพยาบาลมีความต้องการสูงเหมือนกันหมด

ด้าน พล.ต.พีระพลชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนการออกใบเสร็จว่า ช่วงที่ผ่านมามีผู้บริจาคจำนวนมากอย่างที่ทางมูลนิธิไม่เคยรับมากขนาดนี้มาก่อน และต้องให้ทันในปีภาษีนี้ และเนื่องจากเราสนองนโยบายที่ก้าวสู่ 4.0 จึงมีการเปิดรับบริจาคหลายช่องทาง ทั้งบริจาคโดยตรง หรือผ่านบัญชีธนาคาร อีแบงกิ้ง บัตรเครดิต บัตรเดบิต พร้อมเพย์ คิวอาร์โค้ด เคาน์เตอร์เซเว่น และไลน์เพย์ และผู้บริจาคมากกว่า 500 บาท สามารถขอรับใบเสร็จได้หลายช่องทาง โดยต้องแนบหลักฐานมาทางเว็บไซต์ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำไฟล์ออกมาเข้าโปรแกรมออกใบเสร็จ แล้วพรินต์มาเทียบกับหลักฐานที่แนบมาตรวจสอบกับรายการบัญชี

“กรณีคุณทิชา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าหลักฐานที่แนบมานั้นผิดพลาด เป็นใบเสร็จบริจาคของคนอื่น ตรวจพบตั้งแต่ 5 ทุ่ม วันที่ 1 ม.ค. จากนั้นหยุดปีใหม่ 2 วัน จึงเกิดความหลงลืม เป็นความผิดพลาดของบุคคล อีกทั้งช่องทางบริจาคและขอใบเสร็จที่มีจำนวนมาก ทำให้บางท่านไม่เข้าใจ ส่งมาทุกช่องทาง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเอาเอกสารมาตรวจ เพิ่มงานมากขึ้น ตั้งแต่เริ่มโครงการเราไม่เคยปิดสำนักงานมูลนิธิ เร่งออกใบเสร็จให้ทันปีภาษี แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหา ตรวจสอบเพิ่มเติมว่าในคืนนั้นมีรายไหนผิดพลาดอีกหรือไม่ หากท่านใดพบข้อผิดพลาดสามารถติดต่อมาที่มูลนิธิให้ตรวจสอบได้ และอยากขอบคุณคุณทิชาที่ช่วยส่งข้อมูลให้ทราบ

“ส่วนการจัดสรรเงินซื้อเครื่องมือการแพทย์ของ รพ.พระมงกุฎเกล้า หากเครื่องมือใดจำเป็นก็จะซื้อก่อน เพราะทราบว่าทุกท่านอยากรู้ว่าเรานำเงินไปใช้อย่างไร เช่น เครื่องช่วยหายใจที่จำเป็น ส่วนที่เหลืออาจต้องรอให้ตึกใหม่ของโรงพยาบาลเสร็จก่อนจึงจัดซื้อได้ นอกจากนี้เราอยากสร้างเครือข่ายให้โรงพยาบาลทหารในภาคต่างๆ อาจซื้อรถโรงพยาบาลให้ รพ.ทหารบก และจะติดชื่อโครงการก้าวคนละก้าวที่ข้างรถ” พล.ต.พีระพลกล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์