ชาวบ้านตลาดบางบัวทอง ร้องผู้ว่าราชการนนทบุรี หลังเทศบาลเมืองบางบัวทอง ขึ้นค่าเช่าตึกแถวพื้นที่ตลาดบางบัวทอง อีก 100-200% จากค่าเช่าเดิม
วันที่ 17 ตุลาคม 2565 มติชน รายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี นายสุรินทร์ รัตนประภานันท์ นายสุรพงษ์ วัชรวิทยากร ตัวแทนชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าที่เช่าตึกแถวตลาดบางบัวทอง ของเทศบาลเมืองบางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ประมาณ 50 คน รวมตัวกันมาร้องเรียนยื่นหนังสืออุทธรณ์ประกาศของเทศบาลเมืองบางบัวทอง ที่ให้ผู้เช่าตึกแถวทั้งหมดทำสัญญาใหม่และเพิ่มค่าเช่าอีก 100-200% ต่อนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี โดยนายสุธีได้เปิดห้องประชุมชั้น 3 ร่วมพูดคุยกับชาวบ้าน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
โดยมี นายทรรศน์ธรรม ภูวรัตนโชติ์ ผู้แทนท้องถิ่นจังหวัดนนทบุรี น.ส.พรทิพย์ สมรักษ์ นิติกรชำนาญการเทศบาลเมืองบางบัวทอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพูดคุยกัน
กรณีเทศบาลเมืองบางบัวทองได้ประกาศเรื่อง การเช่าอาคารพาณิชย์ แจ้งเรื่องการต่ออายุสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ของเทศบาลเมืองบางบัวทอง ลงวันที่ 28 กันยายน 2565 โดยมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการจัดเก็บเช่าอาคารพาณิชย์และเปลี่ยนแปลงระยะเวลาในการเก็บค่าเช่า ทำให้ชาวตลาดบางบัวทอง ได้รับความเดือดร้อน จึงมาร้องขอให้ทบทวนประกาศดังกล่าวใหม่และชะลอระยะเวลาออกไป
สำหรับอาคารพาณิชย์ในพื้นที่ตลาดบางบัวทอง มีทั้งหมด 127 ห้อง ชาวบ้านได้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2505 โดยเงินส่วนตัวของชาวบ้านเองบนพื้นที่ของเทศบาลเมืองบางบัวทอง และมีระยะเวลาในการเช่าพื้นที่นาน 30 ปี โดยสามารถอาศัยอยู่กันได้ตลอดชั่วลูกชั่วหลาน จากนั้นได้มีการต่อสัญญากันมาตามระยะเวลา จนเมื่อวันที่ 28 กันยายน 65 ได้มีประกาศของเทศบาลเมืองบางบัวทอง เรื่องการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่าและปรับเพิ่มค่าเช่า
โดยแจ้งให้ผู้เช่าทราบพร้อมทั้งจะเริ่มดำเนินการภายใน 15 วัน หลังจากวันรับหนังสือ โดยอัตราการปรับเพิ่มค่าเช่าสูงขึ้น 100-200% มีระยะเวลาในการเช่า 3 ปีต่อการทำสัญญา 1 ครั้ง และการเรียกเก็บค่าโอนกรรมสิทธิ์ครั้งละ 60,000 บาทต่อห้อง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนผู้เช่าที่มีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย เพราะประสบปัญหาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และจากปัญหาเศรษฐกิจ ชาวบ้านจึงมาขอความเป็นธรรมโดย
- ให้ขยายเวลาเช่าเป็นครั้งละ 10 ปีดังเดิม
- ขอให้ทบทวนเรื่องอัตราค่าเช่าใหม่
- เรื่องการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่าส่งต่อให้ลูกหลาน ขอให้งดเว้นค่าธรรมเนียม
นายสุรินทร์ รัตนประภานันท์ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า มาร้องขอความเห็นใจจากผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในเรื่องให้ประสานกับทางเทศบาลเมืองบางบัวทอง ในเรื่องการต่อสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ในตลาดบางบัวทอง ซึ่งเป็นการลงทุนสร้างอาคารโดยชาวบ้านบนพื้นที่เทศบาล โดยมีระยะเวลาเช่าช่วงแรก 30 ปี และต่อสัญญาครั้งละ 10 ปี
แต่เมื่อมาถึงครั้งล่าสุด ทางเทศบาลได้เปลี่ยนเป็นให้ต่อสัญญา 3 ปี ชาวบ้านคิดว่ามันเร็วไป รวมทั้งอัตราการขึ้นค่าเช่า 100-200% จะเริ่มที่เสียค่าเช่าอยู่เดือนละพันกว่าบาท เป็นเดือนละ 2,000 กว่าบาท ถึง 3,000 กว่าบาท
ชาวบ้านจึงขอให้ทบทวนใหม่โดยให้คิดอัตราให้เหมาะสมตามสถานที่ วันนี้ทางจังหวัดได้เชิญตัวแทนเทศบาลมาเพื่อพูดคุยกันด้วย เบื้องต้นชาวบ้านขอให้ชะลอเรื่องการต่อสัญญาออกไปก่อน ส่วนเรื่องค่าเช่าและระยะเวลาจะมีการเข้าไปคุยกับเทศบาลอีกครั้ง โดยทางจังหวัดเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นและเห็นใจชาวบ้าน จึงให้เทศบาลกลับไปทบทวนประกาศอีกครั้งและจะเชิญชาวบ้านเข้ารับฟังเพื่อหาข้อตรงลงที่เหมาะสมต่อไป
ด้าน นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า จะแนะนำให้เทศบาลเมืองบางบัวทอง ไปทบทวนการขึ้นค่าเช่าตามกฎหมายอีกครั้ง โดยผ่านคณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์ จะให้ท้องถิ่นจังหวัดนนทบุรีไปร่วมหารือด้วย แต่ต้องไม่ขัดกับกฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งผมจะไม่ก้าวก่ายในการทำงานของนายกเทศมนตรีเพราะหากเขาทำถูกต้องตามกฎหมาย
“ผู้ว่าฯก็ไม่สามารถเข้าไปสั่งได้ แต่ถ้าหากเขาผิดทำตามกฎหมาย ผู้ว่าฯถึงจะมีอำนาจเข้าไปสั่ง ก็อยากให้เทศบาลขึ้นค่าเช่าแบบขั้นบันได ผมไม่ได้สั่งให้ยกเลิก แต่แนะนำเขาให้ไปพิจารณาใหม่ เพราะทุกอย่างเป็นอำนาจของนายกเทศมนตรี” นายสุธีกล่าว