เช็กบิลผู้บุกรุกคลองลาดพร้าว-บางซื่อ 7 คน พบบางคนเป็นนายทุนแต่ดื้อ ไม่ย้าย

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 กรกฎาคม ที่ สน.บางเขน ผู้แทนกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกครอบครองที่ราชพัสดุบริเวณริมคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อ เพิ่มเติมในชุดที่ 2 อีก 7 ราย ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกลำน้ำสาธารณะตามนโยบายของรัฐบาล โดยมี พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น.ในฐานะรองประธานกองอำนวยการร่วมพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าวและริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา (กอร.ชค.) มาติดตามความคืบหน้าของคดี

พล.ต.ต.สมพงษ์เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายทุนผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำคลองลาดพร้าวมาแล้ว 9 ราย สำหรับผู้ถูกกล่าวหารายใหม่ทั้ง 7 ราย อยู่ในเขตพื้นที่ สน.สายไหม 1 ราย สน.ดอนเมือง 1 ราย สน.ทุ่งสองห้อง 1 ราย สน.บางเขน 2 ราย สน.พหลโยธิน 1 ราย และ สน.วังทองหลาง 1 ราย โดยพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามกฎหมาย

พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าวต่อว่า การจัดระเบียบริมคลองลาดพร้าวเป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อพัฒนาพื้นที่ริมคลองและก่อสร้างเขื่อนเพื่อช่วยระบบป้องกันปัญหาน้ำท่วม ที่ผ่านมาผู้อาศัยริมคลองลาดพร้าวที่มีมากเกือบ 7,000 ครัวเรือน ได้ให้ความร่วมมือและยอมย้ายออกไป กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้จัดสร้างบ้านมั่นคงเพื่อรองรับ ยกเว้นบางชุมชนพื้นที่ไม่พอต้องซื้อที่ดินใหม่ให้สร้างบ้าน แต่พบว่ามีบางรายเป็นนายทุนที่สูญเสียผลประโยชน์ไม่ยอมรื้อย้ายออก ได้ขอความร่วมมือแต่ไม่ได้รับ จึงต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย จากนี้จะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐาน เตรียมออกหมายเรียกผู้บุกรุกครอบครองที่ราชพัสดุบริเวณริมคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อ ทั้ง 7 ราย มารับทราบข้อกล่าวหา หากยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก 2 ครั้ง ก็จะขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป

พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าวต่อไปว่า จากการสำรวจข้อมูลชุมชนริมคลองลาดพร้าว ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) ร่วมกับหน่วยงานภาคี ปรากฏว่ามีชุมชนที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 50 ชุมชน รวม 6,868 ครัวเรือน โดยมีชุมชนที่ต้องโยกย้ายออกจากพื้นที่และไปซื้อที่ดินแห่งใหม่ 9 ชุมชน 1,002 ครัวเรือน และมีชุมชนที่สามารถอยู่ในที่ดินเดิม แต่ต้องเว้นและกันออกจากแนวเขตการก่อสร้างเขื่อน 41 ชุมชน รวม 5,866 ครัวเรือน จากการดำเนินงานที่ผ่านมา หน่วยงานที่รับผิดชอบ อาทิ กรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมสหกรณ์ และหน่วยงานความมั่นคง (ทหาร ตำรวจ) ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้น มีความสะอาดถูกสุขลักษณะ เป็นระเบียบเรียบร้อย การเดินทางสะดวก ปลอดภัย เพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 


ที่มา : มติชนออนไลน์