“ตรุษจีน” ระวังเผากระดาษเงิน-กระดาษทอง เสี่ยงรับสารก่อมะเร็ง!

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นางสุวรรณา จุ่งรุ่งเรือง รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีน ชาวไทยเชื้อสายจีนจะทำพิธีบูชาเทพเจ้า และแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วด้วยการจุดธูปและการเผากระดาษเงินกระดาษทองรวมถึงสิ่งประดิษฐ์รูปต่างๆ ที่ทำจากไม้หรือเศษไม้ไผ่ แต่ปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะการเผาสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ตามความเชื่อว่าเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ทั้งรถยนต์ ไอโฟน ไอแพ็ด เครื่องบิน ที่ทำจากระดาษเคลือบเงินสีสันสวยงาม มันวาว เมื่อเผาไหม้ล้วนแต่ก่อสารโลหะหนักไม่ต่างจากควันธูป ทำให้เกิดควันที่มีสารมลพิษ ได้แก่ สารพิษทางอากาศ ก๊าซเรือนกระจก และสารก่อมะเร็ง รวมไปถึงสารโลหะหนัก 4 ชนิด ได้แก่ โครเมียม นิกเกิล ตะกั่ว และแมงกานีส ซึ่งพบในขี้เถ้าธูปและขี้เถ้าของกระดาษเงินกระดาษทอง ส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

“สำหรับความรุนแรงของอาการเจ็บป่วยขึ้นอยู่กับปริมาณและระยะเวลาที่ได้รับสารนั้น ซึ่งสารโครเมียมและนิกเกิลจะทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด สารตะกั่วมีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ทำให้เลือดจาง ไตวาย แมงกานีสมีผลทำให้เกิดโรคพาร์กินสันได้ในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด” นางสุวรรณา กล่าวและว่า สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ได้ทำการศึกษาและตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารนานาชาติเกี่ยวกับผลกระทบของการได้รับสารก่อมะเร็งจากควันธูป พบว่า ควันธูปมีสารก่อมะเร็งหลายชนิด ได้แก่ พีเอเอช เบนซีน และ 1, 3-บิวทาไดอีน เป็นต้น การได้รับสารเหล่านี้เป็นพิษต่อสารพันธุกรรมและทำให้ความสามารถในการซ่อมแซมความผิดปกติของสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งในระบบทางเดินหายใจและโรคมะเร็งในคน

นางสุวรรณากล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังได้ทำการตรวจวิเคราะห์มลพิษทางอากาศจากการจุดธูปไร้ควัน พบว่า ธูปไร้ควันมีสารก่อมะเร็งทุกชนิดเหมือนธูปทั่วไป เพียงแต่ปริมาณบางชนิดน้อยกว่า และเบนซีนมากกว่า ซึ่งสรุปได้ว่าธูปไร้ควัน ก็มีอันตรายเหมือนธูปทั่วไป นอกจากการจุดธูปแล้ว การเผากระดาษเงินกระดาษทองยังมีสารก่อมะเร็ง PAH 3 เท่า เบนซีน 10 เท่า และ 1, 3 บิวทาไดอีน 5 เท่าของกระดาษที่ไม่ชุบสี วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยง ได้แก่ 1.ลดการจุดธูปและเผากระดาษเงินกระดาษทอง 2.แนะนำให้ใช้ธูปขนาดสั้นเพื่อให้เกิดควันระยะสั้น 3.ควรเผาทีละน้อยๆ และเผาในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด

4.จุดธูปและเผากระดาษเงินกระดาษทองในที่โล่ง มีอากาศถ่ายเท โดยเปิดประตูหน้าต่างทุกครั้ง รวมถึงเปิดพัดลมเพื่อช่วยระบายอากาศหรือควันธูปเทียน 5.เมื่อเสร็จพิธีควรดับไฟด้วยน้ำ/ทราย ทันที 6.เมื่อธูปเทียนดับแล้วควรทิ้งเวลาสักระยะหนึ่งก่อนเข้าไปใช้ห้องหรือบริเวณดังกล่าว 7.ควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นและควันหรือใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดๆ ปิดปากปิดจมูก 8.ภายหลังการสัมผัสควันธูปและกระดาษเงินกระดาษทองควรล้างมือ ล้างหน้า ล้างตาให้บ่อยขึ้น 9.อย่าปักธูปที่จุดแล้วบนอาหาร เพราะขี้เถ้าธูปซึ่งมีโลหะหนักซึ่งส่วนใหญ่เป็นแมงกานีส มีโลหะหนักอย่างอื่นบ้าง เช่น โครเมียม ตะกั่ว นิกเกิล จะตกลงบนอาหารที่จะนำมากิน

10.ห้ามเด็กเข้าใกล้สูดดมควันฝุ่นละอองและกินเศษขี้เถ้าของธูปและกระดาษเงินกระดาษทอง 11.หลีกเลี่ยงการพักผ่อนนอนหลับในห้องและบริเวณที่มีการจุดธูปเทียน 12.สำหรับผู้ผลิตธูปและกระดาษเงินกระดาษทอง ควรเปลี่ยนวิธีการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควรใช้กระดาษและสีที่พิมพ์บนกระดาษชนิดที่ไม่มีพิษ ไม่ใช้กาวในการทำกระดาษเงินกระดาษทอง และ 13.สำหรับศาลเจ้า ควรตั้งกระถางธูปหรือภาชนะสำหรับเผากระดาษเงินกระดาษทอง ไว้นอกอาคาร และเมื่อเสร็จพิธีแล้วต้องรีบดับไฟเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของควันและไอระเหยของสารพิษ ทั้งนี้ แนะนำให้รวบรวมกระดาษเงินกระดาษทองมาเผาพร้อมๆ กันในเตาเผาขยะที่มีปล่องควันสูง ไม่ใช่ต่างคนต่างเผา

 

ที่มา มติชนออนไลน์