จับกุมเจ้าของบัญชีม้า ให้แก๊งหลอกเด็ก ม.3 ลงทุน เร่งขยายผลจับกุม

บัญชีม้า หลอกเด็ก 15 ลงทุน
ภาพจาก มติชน

วันที่ 11 มกราคม 2566 จากกรณีเด็กนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านปากเกร็ด ตัดสินใจผูกคอตนเอง หลังถูกแก๊งหลอกลวงให้ทำงานดูโฆษณาผ่าน YouTube เพื่อหารายได้พิเศษ และถูกหลอกให้ลงทุนซื้อสินค้าเพื่อจำหน่ายเก็งกำไรทางออนไลน์ เป็นเงินจำนวนมากนั้น

ล่าสุด มติชน รายงานว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.ตอท. พ.ต.อ. อภิรักษ์ จำปาศรี รรท.ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.อ.มรกต แก้วสระคู ผกก.1 บก.สอท.2

สนธิกำลังจับกุม น.ส.นภาพร หอมจันทร์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 12/2566 ลง 10 ม.ค. ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยจับกุมได้ที่ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการกระทำความผิด

ชุดสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องและนำไปสู่ปฏิบัติการดีเดย์ตัดบัญชีม้า ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเส้นทางการเงินในลักษณะบัญชีม้าของขบวนการดังกล่าว จากการตรวจสอบพบเงินจำนวนดังกล่าวได้ถูกโอนไปยังผู้ต้องหารายนี้ก่อนที่จะโอนต่อไปยังผู้ต้องหาคนอื่นๆ ในขบวนการอีก 3 ราย

จากการสอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากเพจในเฟซบุ๊กให้เปิดบัญชีระบบออนไลน์จำนวนสองบัญชี อย่างไรก็ตามชุดสืบสวนอยู่ระหว่างนำตัวมาสอบปากคำที่ บช.สอท. โดยทาง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. จะเป็นผู้ร่วมสอบปากคำด้วยตนเอง ในเวลา 13.00 น. รวมทั้งอยู่ระหว่างการติดตามขยายผลสมาชิกผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ อีกต่อไป

ภาพจาก มติชน

ญาติดีใจ จับกุมบัญชีม้าได้แล้ว

มติชน รายงานเพิ่มเติมว่า น.ส.สุทธินี อายุ 22 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดคดีจนสามารถติดตามกลุ่มมิจฉาชีพที่เป็นเจ้าของบัญชีม้าได้แล้ว ซึ่งตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลติดตามไปถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังขบวนการ เอาให้ถึงที่สุด ตนกับครอบครัวตามที่น้องชายตนได้สั่งเสียเอาไว้

น.ส.สุทธินี กล่าวอีกว่า ตอนนี้ทางครอบครัวก็มีกำลังใจมากขึ้น จากช่วงวันแรกที่เกิดเหตุแทบไม่มีแรง ไม่มีใครกินข้าวปลาได้ลง แต่มาถึงวันนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ทำให้ทุกคนในครอบครัวมีกำลังใจขึ้น เหมือนได้ทำตามคำสั่งเสียที่น้องชายขอร้องเอาไว้แล้ว

โดยในวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเผาร่างของน้อง ซึ่งตนก็ได้แต่บอกกับน้องชายไปว่า ช่วยให้เรื่องคดีให้มีความคืบหน้าราบรื่น อย่าติดขัดอะไร เพื่อให้ชีวิตที่น้องชายแลกไปให้ตัวการใหญ่ของกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้มาดำเนินคดีทั้งหมด จะได้ไม่ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนทุกข์ใจให้กับเด็ก เยาวชนคนไหนๆ อีก

ด้าน น.ส.วาสนา แม่ผู้ตาย กล่าวว่า ดีใจมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ไว แม้จะเป็นต้นทางเป็นคนรับจ้างเปิดบัญชีม้าก็ตาม ซึ่งเป็นไปตามความประสงค์ของน้องเขา ส่วนผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องรายอื่นๆ ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไปให้หมด ตนคิดว่าอย่างน้อยในตอนนี้ลูกชายก็คงดีใจแล้ว ที่สามารถจับกุมคนร่วมขบวนการมาได้แล้ว

น.ส.วาสนา กล่าวอีกว่า เหตุการณ์นี้ถ้าครอบครัวตนไม่สูญเสียลูกชายไป ขบวนการมิจฉาชีพเหล่านี้ก็ยังคงหลอกลวงผู้คนต่อไป เพราะไม่ค่อยมีคนไปแจ้งความ ขอให้ดูเคสครอบครัวตนเป็นตัวอย่าง หากถูกหลอกแล้วอย่าไปอาย ให้ไปเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพได้เลย ไม่ว่าจะหลักร้อยหลักพันหรือเป็นเงินเท่าไร อย่างน้อยเพื่อให้ตำรวจได้มีข้อมูลของกลุ่มมิจฉาชีพเอาไว้ในการติดตามตัว

และอยากฝากเตือนไปถึงผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีม้าด้วยว่า อย่าไปเห็นแก่เงินเพียงเล็กน้อยของมิจฉาชีพเหล่านี้ เพราะจะกลายเป็นเครื่องมือไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นได้ ซึ่งตนก็เคยถูกชักชวนให้ไปรับจ้างเปิดบัญชีแบบนี้มาแล้วเช่นกัน แต่ได้บอกปฏิเสธไป

สอท. คาดจับกุมบัญชีม้าครบทุกคน สัปดาห์นี้

ช่วงบ่ายวันเดียวดัน พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า น.ส.นภาพร ผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้า ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้แก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงเด็ก 15 ปีจริง โดยได้รับค่าจ้างบัญชีละ 100 บาท และได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 400 บาท

จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่า เคยถูกจับในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เมื่อปี 2559 และถูกจับคดีการพนัน เมื่อปี 2561-2563

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า คนร้ายมีการแบ่งบัญชีออกเป็น 8 ระดับ และใช้เวลาเพียง 39 วินาที ในการโอนเงินออกจากบัญชีม้าไปที่บัญชีพ่อค้าเงินดิจิทัล แต่ยังโชคดีที่สามารถอายัดเงินในบัญชีไว้ได้ทัน โดยสามารถอายัดได้ จำนวน 50,000 บาท

ขณะที่การตรวจสอบ IP Address ของคนร้าย พบว่าตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการทางอินสตาแกรม เฟสบุ๊กในการดำเนินการตรวจสอบ และเตรียมขยายผลออกหมายแดงต่อไป

รอง ผบช.สอท. ยอมรับว่า เคสนี้ค่อนข้างท้าทายในการดำเนินคดี เนื่องจากคนร้ายมีความรู้ด้านระบบไอที ทำให้ตามตัวได้ยากพอสมควร แต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ได้กำชับ สอท. ให้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ และคาดการณ์ว่าจะสามารถดำเนินการออกหมายจับคนร้าย ครบทั้ง 8 คนได้ภายใน 2 วันนี้ และจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ภายในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ จำนวนผู้ต้องหาบัญชีม้า 8 ราย ที่ บช.สอท. จะออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมแล้ว 3 ราย คือ

  1. น.ส. นภาพร อายุ 32 ปี จับกุมได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
  2. น.ส.พบพร อายุ 28 ปี จับกุมได้ที่ จ.ปราจีนบุรี
  3. นายสมบูรณ์ อายุ 55 ปี จับกุมได้ที่ จ.นครสวรรค์

คงเหลือดำเนินการจับกุมต่อ 5 ราย