อนามัยโพล เผยคนไทย 82% ยังป้องกันโควิดเคร่งครัด

covid-19โควิด

จากตัวอย่าง 10,263 คน 82% ยังทำตามมาตรการป้องกันโรค และ 12.9% ดูแลตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมด้วย

วันที่ 16 มกราคม 2566 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำรวจอนามัยโพล พบคนไทยส่วนใหญ่ยังคงดูแลตัวเองและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าโรคโควิด-19 จะถูกลดระดับลงจากโรคติดต่ออันตรายมาเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังแล้วก็ตาม

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง รวมถึงมีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น กรมอนามัยได้มีการเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนด้วยเครื่องมือ “อนามัยโพล” เพื่อสำรวจพฤติกรรมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม

โดยผลสำรวจครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2565 มีผู้ตอบจำนวน 10,263 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคกันอย่างเคร่งครัด โดย 82.4% ยังคงทำตามมาตรการป้องกันโรค (สวมหน้ากาก ล้างมือ) เหมือนเดิม และดูแลตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม 12.9% ในขณะที่ 4.7% ดูแลตนเองน้อยลง

เมื่อแยกเป็นรายพฤติกรรม พบว่า 91.8% สวมหน้ากากเมื่อป่วยหรือมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ 91.5% สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด/พื้นที่ปิด/อากาศไม่ถ่ายเท 91% ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ส้วม 79% หมั่นทำความสะอาดบ้าน/ของที่ใช้ร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได และร้อยละ 72 ตรวจ ATK เมื่อมีอาการป่วยและสงสัยว่าตนเองป่วยเป็นโรคโควิด-19

นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าวต่อไปว่า แม้ว่าแนวโน้มการดูแลตัวเองส่วนใหญ่จะเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่กลับพบว่าการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่แออัดนั้นมีแนวโน้มลดลงทุกเดือน จากเดือนตุลาคม 93.6% เดือนพฤศจิกายน 92.6% และเดือนธันวาคม 86.3% ตามลำดับ

ทั้งนี้ แม้ว่าโรคโควิด-19 จะลดระดับลงเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง กรมอนามัยยังขอให้ประชาชนดูแลตัวเองให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ที่มีคนแออัด ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องน้ำ หมั่นทำความสะอาดจุดสัมผัสต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได

รวมถึงหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่แออัด พื้นที่ปิด หรือพื้นที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท ตรวจ ATK เมื่อมีอาการที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าจะเป็นโรคโควิด-19 เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค และลดจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19”