ถึงคิว เกาะเสม็ด ข้อครหาและคำโต้แย้ง ว่าด้วยส่วย สะเทือนกรมอุทยานฯ

เกาะเสม็ด

กรมอุทยานฯยังถูกครหาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นคิวของ เกาะเสม็ด สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง

วันที่ 18 มกราคม 2566 กรณีทุจริตในวงการราชการยังคงอื้ออึงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรมอุทยานแห่งชาติ ถูกนายดำรง พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคโอกาสไทย และอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ เปิดข้อมูลการเก็บส่วยบน เกาะเสม็ด

มีการเรียกเก็บเงินรายปีจากรถยนต์เช่า จำนวน 16,000 บาทต่อคันต่อปี รถจักรยานยนต์ คันละ 1,600 บาทต่อคันต่อปี พร้อมสติ๊กเกอร์ 1 แผ่น ใครไม่จ่ายวิ่งไม่ได้

นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการเรือโดยสารถูกขึ้นค่าธรรมเนียมเรือรายปี ถึง 3 เท่าตัวทั้งที่เพิ่งฟื้นจากสถานการณ์โควิดมา 3 ปี และมีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะ จากการก่อสร้างต่อเติมในพื้นที่อุทยาน

เกาะเสม็ด

นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว และให้รายงานข้อเท็จจริงให้ทราบภายใน 15 วัน

ด้าน นายสมศักดิ์ ภูเพ็ชร์ ผู้อำนวยการ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ให้มีผลสรุปออกมาให้เร็วที่สุด โดยพยายามตรวจสอบทุกอย่างให้รอบด้าน ยอมรับว่า บางเรื่องพบความผิดพลาด แต่ก็ต้องตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน และให้ความจริงปรากฎ

ส่วน นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 นายสาธิต ปิ่นกุล ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 และนายชาณุ เดชธัญญนนท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด เปิดโต๊ะชี้แจง ตามประเด็นดังนี้

ประเด็นที่ 1 การประกาศเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมเรือโดยสาร เข้าออกพื้นที่อุทยานฯ นั้น เป็นความจริง โดยเป็นการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 8 .. 2565 สำนักงานไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังได้รับหนังสือจากสมาคมผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวบ้านเพเกาะเสม็ด จึงส่งเรื่องไปยังกระทรวงเเพื่อพิจารณาแล้ว

ประเด็นที่ 2 เรื่อง เรียกเก็บเงินจากรถโดยสารบนเกาะเสม็ด เป็นไปตามกฎกระทรวงที่กำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาต กำหนดเก็บค่าธรรมเนียม คันละ 2,000 บาทต่อปี

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า ทางอุทยานเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการ จากรถยนต์เช่า คันละ 16,000 บาท และ จักรยานยนต์คันละ 660 บาท สำหรับเรื่องดังกล่าว ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว

ประเด็นที่ 3 เรื่องการเรียกเก็บค่าผ่านเข้าอุทยาน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มอีกคนละ 100 บาท นอกเหนือจากค่าผ่านเข้าเกาะเสม็ด 200 บาท ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่กำหนดค่าบริการเป็นพิเศษ จึงไม่ใช่การเรียกเก็บเพื่อหาผลประโยชน์แต่อย่างใด

คนแห่ยกเลิกเที่ยวเกาะเสม็ด
ภาพจาก มติชน

ประเด็นที่ 4 เรียกเก็บเงินใต้โต๊ะ จากการก่อสร้างต่อเติมในพื้นที่อุทยาน ตามที่มีการอ้างว่าเจ้าหน้าที่เรียกเก็บ จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ จากงบประมาณการก่อสร้าง ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เพราะการก่อสร้างต้องมึการยื่นแบบแปลนต่อกรมอุทยานฯ เพื่อตรวจสอบ ให้อยู่ในแบบแปลนที่กำหนดและในพื้นที่ที่ถูกกฎหมาย หากถูกต้องตามกำหนดก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว

ประเด็น 5 เกี่ยวกับเรื่อง การจับกุมผู้ที่เข้าไปกวาดคราดหญ้าริมถนนซึ่งเป็นพื้นที่อุทยาน ที่กล่าวอ้างว่าถูกเรียกเก็บเงินเพื่อแลกกับการไม่จับกุม ซึ่งขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

นายก้องเกียรติกล่าวต่ออีกว่า  เรื่องที่ถูกพาดพิง ถูกกล่าวหา หรือข้อมูลร้องเรียนอื่น ๆ ที่มีรายละเอียดปรากฏตามสื่อต่าง ๆ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) และกรมอุทยานแห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกันแล้ว เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนกรณีที่ทางผู้ประกอบการร้องเรียน ขอให้มั่นใจ และรับรองว่าจะไม่มีการกลั่นแกล้งกันอย่างแน่นอน สำหรับกลุ่มที่มีการร้องเรียน

สำหรับปฏิกิริยาจากผู้ประกอบการ ต้องการให้มีบุคคลจากนอกหน่วยงานเข้าไปมีส่วนร่วมในคณะกรรมการตรวจสอบด้วย เพราะหากเป็นสีเดียวกันตรวจสอบกันเองแล้ว จะเกิดความเป็นธรรมได้อย่างไร