TNN ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีพนักงานจัดผังรายการเสียชีวิต

TNN ช่อง 16 ชี้แจง

TNN ช่อง 16 ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการทำงานของพนักงานจัดผังรายการ ยืนยันไม่ได้มีพนักงานจัดผังแค่คนเดียว ไม่ได้ห้ามลาป่วย-หัวหน้างานไม่มีการโทร.ขอให้เข้ามาทำงานเป็นกรณีพิเศษ

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค จำกัด ผู้ดำเนินการสถานีข่าว TNN มีหนังสือชี้แจงกรณีการนำเสนอข้อมูลของเฟซบุ๊กแฟนเพจ “จอดับ” เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา

หนังสือชี้แจงระบุว่า “ตามที่ เพจจอดับ ได้เสนอข้อมูลนำเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หัวข้อ “ใครว่าทำงานจนตายไม่มีจริง” เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 โดยกล่าวถึงเหตุการณ์หนุ่มใหญ่ในวงการที่วี ตายในหน้าที่บนโต๊ะทำงานในตึกน้ำผลไม้ ย่านพระราม 6 ที่ทำให้ผู้อ่านโพสต์ดังกล่าว เข้าใจได้ว่าเป็นพนักงานสถานีข่าว TNN

และมีข้อมูลหลายประเด็นที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้เกิดความเช้าใจผิดในวงกว้าง สถานีข่าว TNN จึงขอโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

“โดนสั่งให้ทำผังรายการคนเดียวควบถึง 2 ช่อง ไม่เคยมีการหาคนมาช่วยกันแบ่งเบา” และ “คนคน เดียว ให้เหมาทำทั้ง 2 ช่อง”

ข้อเท็จจริง คือ เฉพาะการทำผังรายการของสถานีไม่ได้มีพนักงานแค่คนเดียว มีการทำงานร่วมกันกับทีมทั้ง 2 ช่อง รวม 5 คน ซึ่งสามารถทำงานทดแทนหมุนเวียนกันได้ ในกรณีพนักงานลาหยุดหรือไม่สามารถปฏิบัติงานได้

“พอลาหยุด ลาป่วย ไปได้แค่วันสองวัน ก็โดนโทร.จิกตามให้รีบกลับมาทำผังรายการ นี่มันสถานีโทรทัศน์หรือโรงงานนรกกันแน่”

ข้อเท็จจริง คือ ไม่มีการห้ามลาแต่อย่างใด และมีนโยบายให้พนักงานสามารถ Work from Home ได้ อีกทั้งในวันดังกล่าว พนักงานไม่ได้แจ้งหัวหน้าเรื่องอาการป่วยหรือขอลาพัก เป็นการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และจากการตรวจสอบ หัวหน้างานไม่มีการโทร.ขอให้เข้ามาทำงานเป็นกรณีพิเศษ

ทั้งนี้ บริษัทตระหนักดีว่า การสูญเสียบุคลากรครั้งนี้ทำให้ทุกคนเสียใจ รวมถึงบริษัทก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน โดยพร้อมให้การช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย ด้วยการมอบเงินเป็นกรณีพิเศษ 24 เดือนของเงินเดือนปัจจุบัน เงินประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ เงินจากกองทุนประกันสังคมตามสิทธิที่พนักงานควรได้รับ ตลอดจนร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในการประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมจนถึงงานฌาปนกิจ

บริษัทจึงขอเรียนชี้แจงรายละเอียดเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง และขอให้แอดมิน นำข้อมูลอันเป็นเท็จของเพจจอดับออกจากระบบอินเทอร์เน็ต เพราะข้อมูลดังกล่าวนำมาซึ่งความเข้าใจผิดในสังคม สร้างความเสียหายให้กับองค์กร มิเช่นนั้น บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป”