เปิด 7 วาระเพื่อเด็ก ยูนิเซฟเรียกร้องทุกพรรคสร้างโอกาสเท่าเทียม

UNICEF ยูนิเซฟ เด็ก

UNICEF ประกาศ 7 วาระเพื่อเด็ก รับเลือกตั้ง 2566 เรียกร้องทุกพรรคการเมืองสร้างโอกาสที่เท่าเทียมเพื่อเด็กทุกคน

วันที่ 6 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย (UNICEF Thailand) ได้ประกาศ 7 วาระเพื่อเด็กสำหรับการเลือกตั้งในประเทศไทยที่กำลังจะมาถึง โดยเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรคและผู้มีอำนาจตัดสินใจมุ่งมั่นทำทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กทุกคนในประเทศไทยจะมีโอกาสที่เท่าเทียมในการมีชีวิตที่มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง เติบโต และประสบความสำเร็จในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ

วาระทั้ง 7 ข้อนี้ระบุอยู่ในเอกสาร 7 ข้อเรียกร้องจากยูนิเซฟสำหรับการเลือกตั้งในประเทศไทย ซึ่งมีข้อมูลเชิงวิเคราะห์พร้อมสถิติและข้อเสนอแนะในเรื่องต่าง ๆ ที่กำลังส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของเด็กในประเทศไทย ได้แก่ การพัฒนาเด็กปฐมวัย การศึกษา นโยบายสังคม การพัฒนาวัยรุ่น เด็กพิการ ความปลอดภัยในโลกออนไลน์และการคุ้มครองเด็ก ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการแก้ปัญหาอย่างจริงจังจากผู้กำหนดนโยบาย

โดยทั้ง 7 วาระแบ่งเป็นหัวข้อดังนี้

  • วาระที่ 1 บริการดูแลเด็กที่มีคุณภาพในราคาเข้าถึงได้ สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีทุกคน
  • วาระที่ 2 พลิกโฉมการศึกษาเพื่อพัฒนาเด็กให้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21
  • วาระที่ 3 เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดถ้วนหน้า
  • วาระที่ 4 พัฒนาศักยภาพของเยาวชนที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา การทำงาน หรือการฝึกอบรม (NEET)
  • วาระที่ 5 บริการที่ครอบคลุมสำหรับเด็กพิการ
  • วาระที่ 6 เสริมสร้างความปลอดภัยในโลกออนไลน์สำหรับเด็ก
  • วาระที่ 7 เพิ่มการลงทุนในการพัฒนากำลังคนด้านสังคมสงเคราะห์

ยูนิเซฟระบุว่า การแก้ปัญหาเหล่านี้ถือเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนกว่าเดิม เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุและมีอัตราการเกิดลดลงเรื่อย ๆ โดยอัตราการพึ่งพิงของประเทศไทยจะสูงเกินกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2588

นั่นหมายความว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องลงทุนในการพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างเร่งด่วน เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะมีทักษะและสรรพกำลังที่จำเป็นในการนำพาประเทศไปสู่การเป็นสังคมที่เจริญรุ่งเรือง ยั่งยืน สงบสุข และเท่าเทียมในอนาคต

คยองซอน คิม ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงคือโอกาสสำคัญของประเทศไทยที่จะกำหนดวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตที่เท่าเทียมและเจริญรุ่งเรือง โดยเป็นอนาคตที่เด็กทุกคนจะสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครหรือมาจากไหน การพัฒนาเด็กถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในยามที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว เมื่อเราพูดถึงอนาคตของประเทศ ไม่มีใครสำคัญไปกว่าเด็กอีกแล้ว

ดังนั้น เราต้องทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สูญเปล่าสำหรับเด็ก 13.7 ล้านคนในประเทศไทย ถึงเวลาที่พวกเราทุกคนรวมถึงพรรคการเมืองทุกพรรคและผู้มีอำนาจตัดสินใจต้องร่วมกันยืนหยัดและแสดงความมุ่งมั่นอย่างจริงจังในการสร้างอนาคตที่สดใสและเท่าเทียมสำหรับเด็กทุกคน”